จากกรณี นายศุภชัย อายุ 33 ปี ใช้ขวานผ่าฟืนบริเวณบ้านฆ่า นายประสาน อายุ 83 ปี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง และนางอ่อน อายุ 77 ปี เป็นยาย ของนายศุภชัย บริเวณหน้าบ้านหมู่ 2 ต.บางทอง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา จนนอนจมกองเลือดเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท้ายเหมือง เข้าควบคุมตัว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า เจตนาฆ่าคนตาย
วันที่ 17 พ.ค. 63 พ.ต.ท.เสน่ห์ อุโคตร พงส.สภ.ท้ายเหมือง นำนายศุภชัย สอบปากคำ และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วีรยุทธ สิทธิรัตนกุล ผกก.สภ.ท้ายเหมือง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เริ่มจากจุดบ้านหมู่ 2 ต.บางทอง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา สถานที่เกิดเหตุ
ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นางอ่อน ยายของผู้ก่อเหตุ ท่ามกลางความโกรธแค้นของญาติผู้เสียชีวิต และการคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมทำแผนประกอบคำรับสารภาพครั้งนี้
โดย นายศุภชัย สารภาพว่า ได้ก่อเหตุขณะที่ถูก นายประสาน พ่อเลี้ยงต่อว่าและด่าทอ เรื่องไม่ยอมทำงานกรีดยางพารามัวแต่ดื่มสุราหลายครั้งหลายหน ซึ่งตนเองพยายามเก็บไว้ในใจมาโดยตลอด
กระทั่งก่อนเกิดเหตุ (16 พ.ค.63) ตนเองนอนไม่หลับและเกิดอาการอยากสุราซึ่งไม่ได้ดื่มหลายวัน จนเกิดอาการหลอนและก่อเหตุในที่สุด ขณะที่ใช้ขวานฟันคอและแขนจนร่างนายประสานล้มลง ตนเองได้ฟันซ้ำเข้าบริเวณแผ่นหลังอีกไม่ยั้ง
กระทั่งนางอ่อน ซึ่งเลี้ยงดูตนเอง มาตั้งแต่เด็กจนโตเข้าห้าม แต่ด้วยความตกใจจึงใช้ขวานฟันเข้าที่ร่างยายแท้ๆจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ต่อมาตนเองได้เดินข้ามฝั่งถนนห่างจากที่เหตุประมาณ 100 เมตร เพื่อเข้าทำร้ายญาติอีกคน ที่เห็นและยืนห้ามอยู่อีกฝั่งถนน
แต่ถูกญาติฟาดด้วยด้ามเหล็กของมีดแทงปาล์มน้ำมันจนล้มฟุบพร้อมถูกจับร่างมัดมือมัดเท้าและถูกแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม
ทางพนักงานสอบสวนได้ถามถึงอาการจิตเวชและประวัติการรักษาจนทราบว่า นายศุภชัย ไม่มีประวัติ หรือ อาการทางจิตเวชแต่อย่างใด ซึ่งเป็นโรคลมชัก ทำให้แม่ของตนเองไม่อยากให้เข้าทำงานภายในสวนยางพารา เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นลมชักภายในสวนยางพาราโดยไม่มีใครรู้
เหตุผลนี้จึงเป็นที่มาของการถูกว่ากล่าวตลอดมา ประกอบกับตนเองติดสุรา เมื่อไม่ได้ดื่มจะมีอารมณ์ฉุนเฉียวโดยตลอดมาจนเป็นที่ทราบดีแก่บุคคลในละแวกบ้าน
โดยพนักงานสอบสวน เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม นอกจากข้อกล่าวหาว่า เจตนาฆ่าผู้อื่น เตรียมแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าบุพการี ทำร้ายร่างกาย พกพาอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาต
