
วันที่ 21 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าที่ร้อยเอก พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า พร้อมด้วย พ.ต.ต.บพิตร หมึกดำ สว.สส.ฯ กำลัง อส. ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
ร่วมกันทำการจับกุมตัวนายสุรีย์ อายุ 76 ปี อาศัยอยู่บ้านหมู่ที่ 4 ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมของกลาง ไม้คิวจำนวน 13 อัน ไม้เร็ท จำนวน 3 อัน ลูกบิลเลียดจำนวน 1 ชุด รวมจำนวน 15 ลูก ลูกสนุกเกอร์ จำนวน 1 ชุด รวม 13 ลูก และไพ่ 2 สำรับ
ส่วนอีก 2 คน เป็นผู้ให้ถ้อยคำ คือ นายณัฐพัชร์ ,นายวชิระ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีการลักลอบเล่นการพนันและลักลอบเล่นสนุกเกอร์ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
ทั้งที่อยู่ในช่วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
กระทั่งเวลาที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฯได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พบมีกลุ่มบุคคลกำลังเล่นสนุกเกอร์ สามารถมองเห็นจากภายนอกได้อย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและขอเข้าทำการตรวจค้น พบนายสุรีย์ ผู้ต้องหาแสดงตนเป็นเจ้าบ้าน ผู้ต้องหาให้ความยินยอมและเป็นผู้นำตรวจค้น
ก่อนเข้าทำการตรวจค้น พบของกลางในการกระทำผิดกฎหมายเป็นไม้คิว ไม้เร็ท ลูกบิลเลียด ลูกสนุ๊กเกอร์ ไพ่ ทางเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำนายณัฐพัชร์ และนายวชิระ ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุให้การสอดคล้องกันว่าพวกตนได้มาเล่นสนุกเกอร์ บริเวณที่ดังกล่าวจริง
โดยเสียค่าบริการเป็นรายเกมส์ๆละ 10 บาท ให้แก่ผู้ต้องหา สอบปากคำผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตน ตนเปิดให้บริการโต๊ะสนุกเกอร์ โดยคิดค่าบริการเป็นรายเกมส์ๆละ 10 บาท โดยเปิดให้บริการมานานกว่า 2 ปี
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมพร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมด นำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุมที่กองร้อย อส.อ.ตะกั่วป่า ที่ 7 พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า จัดให้มีการเล่นบิลเลียด หรือการเล่นที่มีลักษณะคล้ายกันตามบัญชีโดยมิได้รับอนุญาต
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาที่สั่งปิดสถานที่เล่นการพนันชนไก่ ปลากัด โต๊ะสนุกเกอร์ การเล่นสะบ้าชุด ร้านเกมส์ และร้านอินเตอร์เน็ต ตามประกาศจังหวัดพังงา
เรื่อง ปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ลงวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2563 อันเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2563 และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป