
โดยสถานการณ์ ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 37 ของโลก มีผู้ติดเชื้อรวม 1,978 คน เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 103 คน รักษาหายแล้วกลับบ้านได้ 581 คน เสียชีวิต 19 คน
นายแพทย์ ธนรักษ์ ผลพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศไทย ระบุว่า วันนี้ พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 103 ราย
แบ่งการติดเชื้อเป็น 3 กลุ่มคือ
1.ผู้ป่วยมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 48 ราย แบ่งเป็น สนามมวย 1 ราย สถานบันเทิง 2 ราย พิธีกรรมทางศาสนาประเทศอินโดนีเซีย 6 รายและสัมผัสผู้ป่วย 39 ราย
2.ผู้ป่วยรายใหม่ 44 ราย แบ่งเป็น เดินทางจากต่างประเทศ คนไทย 7 ราย ต่างชาติ 8 รายสัมผัสผู้เดินทางจากต่างประเทศ 2 ราย ไปสถานที่ชุมชน 4 ราย กลุ่มอาชีพเสี่ยง 13 ราย บุคลากรทางการแพทย์ 5 ราย และ อื่น ๆ อีก 5 ราย
3.อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคอีก 11 ราย
โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย
รายที่ 1 ชายไทยอายุ 59 ปี เป็นพนักงานการรถไฟ เสียชีวิตวันที่ 2 เมษายน 2563 ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ
รายที่ 2 ชายไทย อายุ 72 ปี มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโควิด และยังมีโรคประจำตัวคือ โรคไตเรื้อรัง เสียชีวิตที่โรงพยาบาลราชวิถี
รายที่ 3 ชายไทย อายุ 84 ปี ติดเชื้อจากสนามมวย เพราะมีอาชีพเฝ้าประตูสนามมวย มีโรคประจำตัวร่วมด้วย เช่น โรคไตเรื้อรัง ความดัน ไขมันในเลือดสูง หัวใจขาดเลือดและเก๊าท์ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลกลาง
รายที่ 4 ชายไทยอายุ 84 ปี มีประวัติไปสนามมวย เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า
สรุปสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ขณะนี้มีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 1,978 ราย รักษาในโรงพยาบาล 1,378 ราย กลับบ้านแล้ว 581 ราย
ด้าน รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า จากสถานการณ์การติดเชื้อในวันนี้ ยังคง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสจากคนเดิมในการสอบสวนโรคก่อนหน้านี้ และผู้ป่วยกลุ่มใหม่ ในจำนวนผู้ติดเชื้อ ถ้าดูจากผู้ป่วยรายใหม่ มีการติดเชื้อจากในประเทศ ประมาณวันละ 90 คน
โดยยอดผู้ป่วยติดเชื้อ 103 คน ในวันนี้ แบ่งเป็น 4 กลุ่มหลักตามภูมิภาค เช่น กทม.และปริมณฑล 58 คน จังหวัดภูเก็ต ชลบุรี 16 คน ชายแดนใต้ 12 คน และจังหวัดอื่น ๆ 17 คน.
สำหรับสถานการณ์โดยรวมของประเทศ ปัจจุบัน ถือว่าอยู่ในภาวะคงที่ จึงขอเน้นย้ำ 2 มาตรการที่ต้องทำควบคู่กัน คือ มาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือผู้ที่มีอาการ ให้ไปพบแพทย์
ซึ่งจะพยายามตรวจหาผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยให้มากที่สุด เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาด ส่วนมาตรการที่ 2 คือ การเพิ่มระยะห่างทางสังคม
โดยหลายจังหวัดมีการประกาศใช้อย่างเข้มข้น ในส่วนการควบคุมโรค ยืนยัน ไม่ว่าฤดูไหนก็ไม่มีผลต่อการควบคุมโรค สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือเรื่องเดิม ๆ ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องออกจากบ้าน