
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ยังคงมีพื้นที่ลำน้ำก่ำที่ยังคงต้องเฝ้าระวัง ปัญหาน้ำเอ่อล้น ท่วมฉับพลัน เนื่องจาก ยังมีการระบายน้ำจากหนองหาร จ.สกลนคร ที่มีปริมาณเกินความจุ เพื่อให้มวลน้ำไหลระบายลงลำน้ำก่ำ เพื่อไหลระบายลงแม่น้ำโขง รับมือปัญหาน้ำท่วม ทำให้ ปริมาณน้ำในลำน้ำก่ำ ตลอดสายที่ไหลผ่าน อ.วังยาง อ.นาแก ก่อนไหลลงแม่น้ำโขง ที่ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีปริมาณน้ำสูงเต็มความจุ
ถึงแม้ทางชลประทานจังหวัดนครพนมจะมีการระบายน้ำต่อเนื่องตามประตูระบายน้ำต่างๆ 7 จุดรวมถึงของสนับสนุนเรือผลักดันน้ำ จากกองทัพเรือ จำนวน 6 ลำ ให้มวลน้ำไหลระบายลงน้ำโขงเร็วที่ สุด แต่มวลน้ำยังไหลระบายช้า เนื่องจากมีฝนตกลงมาสมทบ ส่งผลให้ บางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ อ.วังยาง อ.นาแก ส่วนระดับน้ำโขงยังทรงตัว อยู่ที่ระดับประมาณ 6.90 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติล้นตลิ่ง ประมาณ 6 เมตร คือที่ 13 เมตร ยังสามารถรองรับน้ำจากลำน้ำสาขาได้ เบื้องต้น จากการสำรวจของสรุปความเสียหาย ทั้ง 2 อำเภอ พบว่า มีนาข้าว ของเกษตรกร ได้รับความเสียหายแล้ว กว่า 10,000 ไร่ อยู่ระหว่างการเร่งสำรวจ ช่วยเหลือตามระเบียบทางราชการ
นอกจากนี้ยังพบว่าอ่างเก็บน้ำห้วยโท ห้วยยาง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่ ต.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม ได้มีปริมาณน้ำเกินความจุประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ จากความจุสูงสุดที่ประมาณ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้น้ำเริ่มล้นปากกระโถนสปิลเวย์ ไหลระบายเอท่วมพื้นที่การเกษตร และไหลไปสมทบลำน้ำก่ำ และมีพื้นที่การเกษตรเสี่ยงได้รับผลกระทบ กว่า 5,000 ไร่ หากปริมาณน้ำเพิ่มสูงเอ่อล้นต่อเนื่อง
โดยทางอำเภอนาแกยังได้ประกาศแจ้งเตือนไปยัง ชุมชนพื้นที่เสี่ยงในพื้นที่เฝ้าระวัง ตรวจสอบดูแลจัดเก็บสิ่งของขึ้นที่สูง เนื่องจากยังมีความเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน และตั้งศูนย์อำนวยการดูแลช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง หากมีชาวบ้านได้รับผลกระทบ สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันที