
วันนี้(25 ก.พ. 63) นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานคร ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 อย่างต่อเนื่อง
โดยวันนี้ (25 ก.พ. 63) เมื่อช่วงเวลา 07.00 น. รายงานดัชนีคุณภาพอากาศจากสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานคร พบว่า ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจวัดได้ 54 -81 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 41 พื้นที่
โดยพื้นที่ที่พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงได้แก่ เขตบางกะปิ ริมถนนนวมินทร์ มีค่า 81 มคก./ลบ.ม. , เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย มีค่า 80 มคก./ลบ.ม. , เขตคลองสามวา ริมถนนเลียบคลองสอง มีค่า 80 มคก./ลบ.ม. , เขตลาดกระบัง มีค่า 79 มคก./ลบ.ม. , เขตหนองแขม ริมถนนเพชรเกษม มีค่า 74 มคก./ลบ.ม. และ เขตวังทองหลาง ซ.ลาดพร้าว 95 มีค่า74 มคก./ลบ.ม.
เพื่อประสานดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ทางปลัดกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้ 50 สำนักงานเขต หากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐาน ให้ดำเนินการล้างทำความสะอาดถนนและทางเท้า และเพิ่มความถี่การพ่นฉีดละอองน้ำในอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ตรวจสภาพเครื่องยนต์ตามระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนด ดูแลบำรุงรักษารถยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ เพื่อป้องกันไม่ให้มลพิษเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนกำชับพนักงานขับรถยนต์ให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ปฏิบัติงานหรือจอดรถรอรับ-ส่ง
รวมถึงเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมดูแลพื้นที่โครงการก่อสร้างในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะการกำชับกวดขันให้ผู้รับเหมาฉีดน้ำทำความสะอาดล้อรถบรรทุกหรือรถอื่นๆ ก่อนออกจากสถานที่ก่อสร้าง รวมถึงการล้างทำความสะอาดพื้นที่ก่อสร้างทุกวัน เพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง ในอากาศ
นอกจากนี้ได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว หันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ตรวจสอบสภาพรถไม่ให้ปล่อยควันดำ งดเผาในที่โล่งแจ้ง รวมถึงการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อสภาพแวดล้อมที่ดีและลดมลพิษในอากาศ