
วันนี้(12 ก.พ. 63)ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศของกรุงเทพมหานครขอสรุปผลการตรวจวัด PM2.5 เวลา 05.00-07.00 น. (3 ชั่วโมงล่าสุด) ตรวจวัดได้ 44-69 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ย 52 มคก./ลบ.ม.
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า วันนี้ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และยังคงมีค่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 20 เขต คือ เขตสัมพันธวงศ์ เขตพญาไท เขตวังทองหลาง เขตปทุมวัน เขตบางรัก เขตบางคอแหลม เขตยานนาวา เขตบางกะปิ เขตลาดกระบัง
เขตบางกอกน้อย เขตภาษีเจริญ เขตบางเขน เขตบางขุนเทียน เขตพระนคร เขตคลองเตย เขตหลักสี่ เขตบึงกุ่ม เขตคลองสามวา เขตสายไหม และเขตจอมทอง ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง – เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยริมถนนพระราม 3 เขตบางคอแหลม ดัชนีคุณภาพอากาศสูงสุดอยู่ที่ 147
สำหรับผู้อยู่ในพื้นที่คุณภาพอากาศปานกลาง ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ส่วนผู้อยู่ในพื้นที่คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ให้ประชาชนทั่วไปในบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศเกินมาตรฐานเฝ้าระวังสุขภาพ หากมีอาการเบื้องต้น
เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยทางเดินหายใจ พร้อมใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากเกิดความจำเป็น
ทั้งนี้ กทม.ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตดำเนินมาตรการต่าง ๆ อาทิ การฉีดล้างถนน ต้นไม้ ป้ายรถเมล์ ฯลฯ และฉีดพ่นละอองน้ำอย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อลดฝุ่นละอองสะสมในอากาศ
การลงพื้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลป้องกันตนเองจากฝุ่น PM2.5 และไวรัสโคโรนา พร้อมแจกหน้ากากอนามัย ตลอดจนการตั้งจุดตรวจจับควันดำรถยนต์
อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั่วไปสามารถติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศของ กทม. แบบ Real Time ได้ที่ www.bangkokairquality.com, www.air4bangkok.com, Facebook : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง และ Facebook : สำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม.