
จากกรณีเมื่อวานนี้(8 ก.พ. 63) จ.ส.อ.จักรพันธ์ ก่อเหตุบุกยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส อายุ 48 ปี สังกัดกองพันกระสุนที่ 22 กรมสรรพาวุธ ผู้บังคับบัญชาของผู้ก่อเหตุ ที่บ้านใน ต.หนองจะบก อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ที่ผ่านมา จนเสียชีวิต
พร้อมกับยิงนางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 65 ปี เจ้าของบ้านเสียชีวิตด้วย จากนั้นได้ขับรถเก๋งหลบหนีเข้าไปหน่วยกองพันกระสุนที่ 22 จอดรถทิ้งเอาไว้ แล้วเข้าแย่งอาวุธปืนจากทหารเวรประจำการ และใช้อาวุธยิงทหารเวร จนได้รับบาดเจ็บ 1 นาย เสียชีวิต 1 นาย
จากนั้นได้ขโมยรถฮัมวี่ทหาร ซึ่งภายในมีอาวุธสงครามเป็นปืนเล็กยาว เอสเค และปืนพกสั้นอีก 6 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน ขับหลบหนีออกด้านหลังค่าย ขับหลบไปทางวัดป่าศรัทธารวม เขตตำบลหัวทะเล แล้วขับฝ่าการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ฯ ไปทางด้านหลังวัด
พร้อมกับกราดยิงประชาชนในละแวกจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประชาชน และนักเรียนที่ขับรถผ่านเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี
ล่าสุดวันนี้(9 ก.พ. 63) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้า เหตุคนร้ายกราดยิง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายรายในพื้นที่ จว.นครราชสีมา ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.
พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. , พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ตลอดจน หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 , หน่วย commando กองบังคับการตำรวจราชวัลภลรักษาพระองค์ 904 ,
หน่วยหนุมาน กองบังคับการปราบปราม, หน่วยอรินทราช 26 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ, หน่วยนเรศวร 261 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ และ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำลังสุรนารี ได้ร่วมปฏิบัติการ ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้วิสาสามัญมาตกรรมคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลข่าวสารและข้อแนะนำจากทางราชการ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้เดินทางถึงที่เกิดเหตุแล้ว โดยบอกเพียงว่า ขอให้ติดตามข้อมูลจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ต่อไป
ด้าน นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.นครราชสีมา สรุปสถานการณ์ของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตว่าตัวเลขล่าสุดของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 20 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 42 ราย
พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 21 ราย ในจำนวนนี้ทำการผ่าตัดแล้ว 9 ราย และกลับบ้านแล้ว 21 ราย