
9 ธ.ค.62) ร.ต.ท.กิตติพัฒ ลาเกิด รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิต ที่บริเวณหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ ริมถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
หลังรับแจ้งได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนจะรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวร รพ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์
ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายนิรุจน์ สมมีย์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 3 ต.ตรำดม อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ คนงานรับเหมาเดินสายเคเบิลอินเตอร์เน็ตของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
นอนเสียชีวิตอยู่ข้างทางสภาพศพมีร่องรอยถูกไฟฟ้าช็อตทั่วทั้งตัวและศีรษะแตกเนื่องจากร่วงลงมาจากที่สูง ทำให้ศีรษะกระแทกกับพื้นเลือดไหลนองสร้างความเศร้าโศกเสียใจกับเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างมาก
ซึ่งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ทำการตัดกระแสไฟป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่วไหล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแพทย์และหน่วยกู้ภัยได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย ก่อนจะให้หน่วยกู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่ง รพ.บุรีรัมย์ เพื่อรอญาติมารับศพนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
จากการสอบถามนายสุรชัย จารัตน์ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิต บอกว่าตนกับผู้ตายได้รับเหมาเดินสายเคเบิลอินเตอร์เน็ต ซึ่งรับช่วงต่อมาจากบริษัทอีกทอดหนึ่ง
และวันนี้มาทำการจัดระเบียบแยกสายสัญญาณของบริษัทที่พวกตนรับเหมาเพื่อไม่ให้ปะปนกับสายสัญญาณของบริษัทอื่นเพื่อที่สะดวกต่อการจัดระเบียบสายสัญญาณโทรศัพท์ และสายเคเบิลของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
โดยนำบันไดไม้ไผ่มาพาดกับสายเคเบิ้ล แล้วขึ้นไปทำการแยกสาย ซึ่งวันนี้ได้มาทำการคัดแยกสายที่บริเวณหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ กับหน้าสำนักงาน กศน.
ในขณะที่ผู้ตายกำลังทำงานอยู่บนเสาไฟฟ้า ความสูงประมาณ 5 เมตรนั้น ได้ยินเสียงไฟช็อตและมีประกายไฟเกิดขึ้น บริเวณที่ผู้ตายกำลังทำงานอยู่ ก่อนที่ร่างผู้ตายจะร่วงลงมากระแทกพื้นเสียชีวิตทันที
ด้านนายอดุลย์ ภู่จันทร์ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกปฎิบัติการ สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว อาจจะเกิดจากความประมาท หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้รับเหมา และไม่มีอุปกรณ์ป้องกันตัวเองขณะปฎิบัติหน้าที่บนเสาไฟฟ้า จึงทำให้ถูกไฟช็อตดังกล่าว
ซึ่งหลังเกิดเหตุทำให้ไฟฟ้าในบริเวณดังกล่าวดับ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้มาดำเนินการแก้ไขจนสามารถใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งการปฎิบัติงานในลักษณะดังกล่าว จะต้องได้รับอนุญาตจากการไฟฟ้าก่อนถึงจะปฎิบัติงานได้ แต่สำหรับเหตุการณ์นี้ คาดว่าน่าจะเป็นผู้รับจ้างช่วงต่ออีกทอดหนึ่งจากบริษัทเอกชน จึงไม่ได้แจ้งการไฟฟ้าก่อน