
เมื่อเวลา 20.00 น.ของคืนวันที่ 13 พ.ย. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจากทางคณะกรรมการของวัดแหลมประดู่ และชาวบ้าน หมู่ 6 ตำบลสระสี่เหลี่ยม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
ว่ามีพระภิกษุรูปหนึ่งของวัดแหลมประดู่ พร้อมด้วยคนขับรถได้ขับรถมาหาสีกา ที่เกาะโพธิ์รีสอร์ท ตำบลท่าบุญมี อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี ที่ห่างจากวัดประมาณ 29 กิโลเมตร โดยทางชาวบ้านได้ทำการปิดล้อมเอาไว้ เพื่อไม่ให้พระและสีกาหลบหนี พร้อมกับได้ถ่ายคลิปมือถือเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน
โดยเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่รีสอร์ทดังกล่าวก็ได้พบว่า ได้มีชาวบ้านยืนมุงดูที่ห้องพัก จึงได้เข้าบุกตรวจสอบ พบคนภายในห้องคือพระเจ้าอาวาส อายุ 80 ปี และยังเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง
พร้อมหญิงสาวทราบชื่อเล่นคือนางเติ้น อายุประมาณ 30 ปี ที่ยังอยู่ในสภาพเปลือยกาย จึงได้ทำการควบคุมตัวพระเจ้าอาวาส ไปสอบสวนที่ สถานีตำรวจภูธรเกาะจันทร์ พร้อมยอมรับสารภาพ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นิมนต์เจ้าคณะอำเภอพนัสนิคม มาทำการสึกในช่วงเวลา 22.00 น.ในความผิดเสพเมถุน เพื่อให้ขาดจากการเป็นพระทันที
ต่อมาเมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 14 พ.ย. 62 ทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่วัดเจ้าอาวาสดังกล่าว ในอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เพื่อสอบถามนายยา อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถของวัดและขับรถประจำตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวและยอมรับว่าเป็นคนขับไปส่งอดีตเจ้าอาวาสจริง
พร้อมกล่าวว่าทุกครั้งอดีตเจ้าอาวาสจะให้ตนเองไปส่งที่รีสอร์ทในช่วงเวลา 18.00 น.โดยจะไปส่งประมาณเดือนละหลายครั้ง พออดีตเจ้าอาวาสเข้าไปในห้อง ตนเองก็จะนั่งรออยู่ในรถ และจะออกมาจากห้องช่วงเวลา ประมาณ 20.00 น.ทุกครั้งที่มาส่ง โดยจะขับรถมาส่งแบบนี้เป็นเวลานานหลายปีแล้ว
โดยตนเองจะได้รับค่าตอบแทนในการขับรถให้ครั้งละ 300 บาท ซึ่งตนเองไม่มีเงินจึงจำเป็นต้องทำบางครั้งก็เคยบอกกับอดีตเจ้าอาวาสเหมือนกันว่ากระทำแบบนี้ไม่ดีและขอให้หยุดการกระทำแต่อดีตเจ้าอาวาสไม่ฟัง แถมยังต่อว่าตนอีก
ตนจึงคิดว่าจะไม่ยอมทำให้อีกแล้วจึงได้แจ้งกับคณะกรรมการวัดให้ทราบว่าไปที่ไหนบ้าง จนมาจับได้คาหนังคาเขาที่รีสอร์ทดังกล่าว