
หนุ่มจี้ชิงกระเป๋าสะพายเปิดดูเจอเงิน10บาทกลัวถูกจับทำตัวเป็นพลเมืองดีนำกระเป๋ามาคืนที่โรงพักถูกตำรวจรวบทันควัน สารภาพหาเงิน 100 บาทไปใช้หนี้แต่ในกระเป๋ามีเพียง 10 บาท
เมื่อเวลา 20 นาฬิกา 40 นาที วันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 พันตำรวจโทนพพร เริ่มรวย รองผู้กำกับสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสงครามได้รับแจ้งจากนางสาวรัตนา อายุ 32 ปี ชาวตำบลคลองเขิน อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ว่าถูกจี้ชิงทรัพย์บริเวณปากซอยทางเข้าโรงแรมออเร้นแม่กลอง ซอยชลประทาน 3 ริมถนนทางเลี่ยงเมือง ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
คนร้ายได้กระเป๋าสะพายไป 1 ใบ จึงนำกำลังชุดสืบสวนเกือบ 10 นาย ติดตามไล่ล่าคนร้ายบริเวณแคมป์คนงานซึ่งอยู่ใกล้เคียงและริมถนนสายดังกล่าว ซึ่งคาดว่าคนร้ายจะหลบหนีโดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ยังไม่พบตัวคนร้าย
นางสาวรัตนากล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถยนต์มาจอดบริเวณจุดเหตุกำลังจะข้ามถนนไปที่ตู้ ATM ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อกดเงิน จู่ๆถูกคนร้ายใช้อาวุธปลายแหลมคล้ายมีดจี้ชิงกระเป๋าสะพายด้านในมีเงินสด 10 บาทเศษและมีบัตรประชาชนบัตร ATM รวมทั้งเอกสารสำคัญต่างๆ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีชายต้องสงสัยนำกระเป๋าของนางสาวรัตนาไปคืนให้กับตำรวจที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม โดยอ้างว่าเจออยู่ริมถนนทางเลี่ยงเมืองและท่าทางมีพิรุธ โดยนางสาวรัตนายืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าชายที่นำกระเป๋าสะพายมาคืนคือผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ ชื่อนายวิศิษฐ์ อายุ 22 ปี ซึ่งตอนแรกนายวิศิษฐ์ไม่ยอมรับ แต่เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน จึงรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยตนเองกำลังเรียน กศน.ชั้น ม.6 ไม่มีงานทำจึงมาอาศัยนอนที่วัดปากลัด ตำบลคลองเขิน
ต่อมายืมเงินพระมา 100 บาท ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาคืนจึงตัดสินใจซุ่มในป่ากระทั่งพบผู้เสียหายจึงใช้ไม้จี้ผู้เสียหาย ชิงกระเป๋าสะพายมา 1 ใบ ก่อนจะหลบหนีหวังจะหาเงิน 100 บาทไปใช้หนี้พระ ต่อมาพบว่าในกระเป๋ามีเงินเพียง 10 บาทเศษ และเห็นเจ้าหน้าที่มาติดตามจำนวนมากจึงเกิดความกลัวจะถูกจับกุม และถูกญาติผู้เสียหายกระทืบ จึงทำทีเป็นพลเมืองดีนำกระเป๋ามาคืนที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม หวังต้องการพ้นความผิดแต่ถูกจับได้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป