
วันที่ 23 ม.ค.65 น.ร.ต.ท.พงศกร ทองประเสริฐ ร้อยเวรสภ.ควนโดน รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บ้านใน ม.4 ต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล ซึ่งอยู่ติดถนนสายควนโดน-ทางงอ พื้นที่ม. 4 จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและรุดไปที่เกิดเหตุ
ต่อมานายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอำเภอควนโดน พร้อมด้วยพ.ต.อ.นิพล เหมสลาหมาด รองผบก.ภจว.สตูล พ.ต.อ.บุญเลิศ ตรัสสิริ ผกกสภ.ควนโดน พร้อมชุดพิสูจน์หลักฐานได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกองเลือด และหัวกระสุนขนาดจุด 38 ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 นัด
ส่วนผู้ตายได้นำศพไปยังรพ.ควนโดน ทราบชื่อ นายยงยุทธ อายุ 30 ปี อยู่บ้านหมู่ที่ 4 ต.ควนสตอ สภาพศพถูกยิงบริเวณมือขวา ชายโครงซ้าย ไหล่ขวา คอ หัวรวม 5 นัด
สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนบ้านซึ่งเป็นญาติพี่น้องกัน โดยบ้านผู้ตายอยู่ตรงข้ามกับบ้านของคู่กรณี และในวันนี้มีการมาเคลียร์กันที่บ้านของ น.ส.จุฑามาศ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง อ.เมืองสตูลพี่สาวผู้ตายและบ้านอยู่ติดกับหน้าบ้านที่เกิดเหตุ
ขณะที่ผู้ตายพ่อและพี่สาวของผู้ตายยืนคุยอยู่กับคู่กรณี มีรถจักรยานยนต์ 2 คันขับมาจอดใกล้ๆซึ่งคนที่กำลังเจรจากันอยู่ไม่ทันสังเกต เมื่อผู้ตายเดินออกมามือปืนก็ชักปืนยิงไปทันที ท่ามกลางความตกใจของญาติพี่น้องที่เห็นเหตุการณ์ จากนั้นวิ่งขึ้นรถขับหนีไป
พ.ต.อ.นิพล เหมสลาหมาด รองผบก.ภจว.สตูล กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการทะเลาะกันระหว่างญาติพี่น้องมีการทะเลาะกันก่อนแล้วในช่วงเช้า ในส่วนของพนักงานสอบสวนก็รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับตอนนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลจากภาพวงจรปิด
ตอนนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้วทราบว่าอาวุธที่นำมาก่อเหตุมี 2 กระบอก ซึ่งถือเป็นเหตุสะเทือนขวัญเพราะยิงกลางวันแสกๆต่อหน้าญาติพี่น้องผู้ตายด้วยเห็นหน้าจากกล้องวงจรปิดชัดเจน
ตอนนี้กำลังเร่งรัดอยู่ ด้านนายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอำเภอควนโดนกล่าวว่า มือปืนหน้าจะเป็นเพื่อนของคู่กรณี ผู้ตายก็น่าจะรู้ตัวพอสมควรตอนที่มายิงก็วิ่งหนีกันอยู่คาดว่าไม่เกิน 3 วันก็น่าจะได้ตัวตอนนี้ทราบว่ามีการติดต่อเพื่อขอมอบตัวแล้ว
ด้านนายเอกรินทร์ เตาวโต ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอ.ควนโดน ซึ่งเป็นพี่เขยของผู้ตายและเป็นเจ้าของบ้านที่ทางฝ่ายผู้ตายและคู่กรณีมาเจรจากันหน้าบ้าน โดยนายเอกรินทร์กล่าวว่าขณะเกิดเหตุนั้นตนกำลังละหมาดอยู่ในบ้าน
แต่ระหว่างที่กำลังละหมาดได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเป็นชุดๆ 2 ชุดด้วยกันประมาณ 5-6 นัด จากนั้นภรรยาซึ่งเป็นพี่สาวของผู้ตายได้มาเรียกให้ออกไปดูพบว่าน้องเขยถูกยิงนอนเสียชีวิตแล้ว
ส่วนผู้ก่อเหตุและคนอื่นๆก็กลับกันหมดแล้วสำหรับผู้ตายซึ่งเป็นน้องภรรยานั้น อาศัยอยู่บริเวณหลังบ้านของตนซึ่งเข้าไปอีกซอยที่อยู่ใกล้ๆกันจะมากินข้าวที่บ้านเป็นประจำ นิสัยส่วนตัวก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปแต่แกไม่ทำร้ายใครไม่ค่อยมีเรื่องชกต่อยกับใคร
ส่วนเรื่องที่มีปัญหากันนั้นตนไม่ทราบเพราะไม่ได้สนิทกับผู้ตาย และผู้ตายกับตนก็ไม่ได้เข้าใกล้กันส่วนของคดีก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปให้ถึงที่สุด
อย่างไรก็ตามจากการที่กล้องวงจรปิดที่หน้าบ้านถ่ายติดไว้เห็นว่าขณะที่มีการเจรจากันอยู่หน้าบ้านตนนั้นมีรถจักรยานยนต์ของคนร้ายขับเข้ามาจอด 2 คัน และ หนึ่งในนั้นเดินลงมาจากรถและใช้ปืนยิงไปที่น้องภรรยาเมื่อผู้ตายล้มคนร้ายได้เข้าไปจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิตคาที่
จากนั้นคนร้ายวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหนีไปท่ามกลางความตกใจของญาติพี่น้องเด็กและผู้หญิง
ขณะที่ น.ส.จุฑามาศ อายุ 40 ปี พี่สาวผู้ตาย เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า ตนอยู่ในที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุน้องชายไปหาพ่อที่บ้าน ซึ่งพ่อนั้นได้มาที่บ้านของตนเพื่อที่จะมาเคลียร์กันกรณีน้องชายไปบุกรุกบ้านของญาติที่เป็นคู่กรณีกัน
ขณะที่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ไปตามหาน้องชายตนเพื่อจัดการ เมื่อเขาเห็นน้องชายมาที่บ้านตนเขาก็จะรุมทำร้ายพ่อเลยบอกว่างั้นต่อยกันเลยวัดกันตัวต่อตัวอย่ารุม หรือไม่ก็ว่ากันไปตามกฎหมายซึ่งทางคู่กรณีได้ไปแจ้งความไว้แล้วว่าน้องชายขึ้นบ้านเขายามวิกาล ก็ให้จบกันไปที่แจ้งความ
คู่กรณีนั้นมี 3 คนตนรู้จักเพียงคนเดียวเพราะเป็นญาติกัน ส่วนอีก 2 คนไม่รู้จัก อยู่ๆมือปืนก็เข้าไปยิงนัดแรกผู้ตายล้มลงไปนอน และเขาก็เข้าไปยิงซ้ำ
อย่างไรก็ตามสำหรับมูลเหตุในครั้งนี้มาจากผู้ตายซึ่งมีบ้านอยู่ตรงข้ามกับคู่กรณีได้ขึ้นบ้านคู่กรณีมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีการพูดคุยกันระหว่างญาติพี่น้องเนื่องจากนามสกุลเดียวกัน ว่าจะไม่ให้ทำอีก
และล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาฝ่ายคู่กรณีอ้างว่าผู้ตายได้ขึ้นไปบ้านของเขาอีก จึงได้มีการแจ้งความและมาเคลียร์กันอีกครั้งจนกระทั่งคาดว่าเพื่อนของคู่กรณีได้ลงมืออย่างอุกอาจต่อหน้าต่อตาพ่อและพี่ของผู้ตายดังกล่าว ซึ่งศพผู้ตายจะทำการฝังที่กุโบร์ในช่วงดึกของคืนนี้