
วันที่ 19 มกราคม 65 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมตัวแทนหน่วยงานทหารและ ปปส.ภาค 5 ร่วมแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ 3 คดี ยึดของกลางยาบ้ากว่า 8,616,000 เม็ด
รายแรกเมื่อ 14 มกราคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ด่านตรวจยาเสพติด สภ.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ จับกุมยาบ้าได้ 12 กล่องโฟม รวม 2,300,000 เม็ด ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้ขับรถบรรทุกผักคันเกิดเหตุ ยี่ห้อ อีซูซุ
ว่าได้รับจ้างจาก ผู้มีชื่อว่าเอกสำโรง 2 ให้ขึ้นไปบรรทุกของที่ บ้านแคหวาย ซอย 1 สนามกีฬากลาง จ.เชียงราย ได้ค่าจ้าง 6,000 บาท ให้ไปส่งปลายทาง ที่ อ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ มีคนงานมายกสิ่งของบรรจุกล่องโฟมใส่ไว้บนรถ โดยมีผักอำพรางไว้ด้านบน
และถึงด่านตรวจ x-ray (ห้วยไร่) เจ้าของรถสงสัยสิ่งของที่รับจ้างบรรทุกมา จึงขอเอารถเข้า x -ray และพบของกลางยาบ้าจำนวน 12 กล่องโฟม จำนวนประมาณ 2,300,000 เม็ด
โดยซุกซ่อนมากับกล่องสับปะรดทำเครื่องหมายไว้หน้ากล่องซึ่งเป็นกล่องยาเสพติด โดยรายนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง
รายที่สอง เมื่อ 14 มกราคม 65 ชุดสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดฯ สืบสวน ภาค 5 และ ทหารกองกำลังผาเมืองจับกุมยาบาล็อตใหญ่จำนวน 30 กระสอบ ประมาณ 6,030,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 2 คัน บริเวณบ้านหมู่ 3 ต.ยางฮอม อ.ขุนตาล จ.เชียงราย พร้อมผู้ต้องหา 3 คน
คือ นายต่ง อายุ 25 ปี ชาว อ.ภูซาง จ.พะเยา , นายพลทัต อายุ 23 ปี , ชาว ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และ นายฉัตรชัย อายุ 21 ปี ชาว ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย
หลังสืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหานำยาเสพติดจากพื้นที่ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ผ่าน อ.เชียงของ มุ่งหน้าไปยัง อ.เทิง จ.เชียงราย จึงได้สะกดรอยติดตาม เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณจุดตรวจท่าเจริญ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสกัดรถของกลุ่มผู้ต้องหาเพื่อจะทำการตรวจค้นจับกุม
แต่กลุ่มผู้ต้องหาไม่ยอมหยุดรถพร้อมกับแยกย้ายกันหลบหนี โดยขับรถบรรทุกของกลางไปจอดทิ้งไว้ ที่บ้านประชาชนริมถนน ขุนตาล – เทิง แล้วหลบหนีไปจึงได้ประสานหน่วยในพื้นที่ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด
จนเจ้าหน้าที่ทหารพราน ฉก.31 กกล.ผาเมือง ซึ่งตั้งจุดสกัดบนถนนสาย ขุนตาล – พญาพิภักดิ์ พบกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ขับรถกระบะผ่านมา จึงได้ควบคุมตัวไว้ได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด
รายที่สาม วันที่ 15 มกราคม 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจยาเสพติด สภ.แม่พริก จ.ลำปาง จับกุมยาบ้าจำนวน 143 มัด รวมประมาณ 286,000 เม็ด พร้อมรถยนต์ลากจูง(รถสไลด์) โตโยต้ารีโว่ สีขาว และรถยนต์เก๋งโตโยต้าโคโลร่า สีเทา ผู้ต้องหา 3 คน คือ นายทศพร อายุ 33 ปี นายประสิทธิ์ อายุ 42 ปี และ นายวีรชาติ อายุ 20 ปี ทั้งหมดเป็นชาว จ.ราชบุรี
สำหรับของกลางยาบ้าที่ยึดได้ในล็อตนี้พบว่ามีการประทับตราบนยาบ้าหลายแบรนด์ ทั้ง “7” , “999” และ แบรนด์ที่ผลิตออกมาเป็นสีม่วงและประทับตราสัญลักษณ์เป็นตัว L คล้ายแบรนด์ยี่ห้อรถหรู ที่พบครั้งนี้เป็นครั้งแรก
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 กล่าวว่า จากการสืบสวนขยายผลทั้ง 3 คดีพบว่ามีผู้บงการอยู่เบื้องหลังคือนายบุญชัย อายุ 56 ปี หรือ “เสี่ยอ้วน วัวชน” หรือชื่อในวงการยาเสพติดชายแดนไทย-ลาว เรียกว่า "ป๋อลี" ราชายาเสพติดภาคเหนือ
ที่มีหมายจับกว่า 10 คดี และ ขณะนี้ได้หลบหนีการจับกุมไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน แล้วสั่งการให้กลุ่มขบวนการทำการลำเลียงยาเสพติดกระจายส่งให้กับเครือข่ายและเอเย่นต์ในประเทศไทย
โดยเมื่อปีที่แล้วทางเจ้าหน้าที่สามารถทำการตรวจยึดยาบ้าจากกลุ่มขบวนการของ นายป๋อลี ได้รวมประมาณกว่า 50 ล้านเม็ด และ ยึดทรัพย์นายป๋อลี่ ได้กว่า 500 ล้านบาท
ในส่วนของพฤติการณ์นั้นจะอาศัยการว่าจ้างรถขนส่งสินค้า หรือการว่าจ้างคนขับรถให้ช่วยลำเลียงยาเสพติดไปส่งตามสถานที่นัดหมาย โดยบางรายคนขับก็ไม่ทราบว่าสินค้าที่นำไปส่งนั้นเป็นอะไร แต่ก็เกิดความสงสัยและลองตรวจสอบจึงทราบว่าเป็นยาเสพติด
ดังนั้นจึงอยากฝากถึงคนขับที่รับจ้างขนส่งสินค้า ช่วยตรวจสอบสินค้าที่จะนำไปส่งให้ดี เพราะอาจถูกกลุ่มขบวนการยาเสพติดเหล่านี้แฝงตัวมาว่าจ้างให้นำยาเสพติดไปส่งตามสถานที่นัดหมายโดยไม่รู้ตัว