
วันที่ 5 ม.ค. พ.ต.ท.วรยุทธ ฟ่องสุทธิพิทักษ์ สว.สอบสวน สภ.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ประสาน นายปราโมทย์ แก้วนาม หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่
ให้ จนท.อุทยานฯ นำเอกสารหลักฐานการตรวจยึดพื้นที่บริเวณหาดคลองสน หมู่ 6 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เนื้อที่ 125 ไร่ 2 งาน 32 ตารางวา
ซึ่งทางอุทยานฯ ตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าวไว้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.46 พร้อมทั้งมีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว แต่ต่อมาเมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ทางกรมอุทยานฯ ใช้โดรนบินสำรวจพบว่าพื้นที่ตรวจยึดดังกล่าว มีคนเข้าไปบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ประมาณ 8 ไร่เศษ
จึงให้ จนท.เข้าแจ้งความไว้กับ พ.ต.ท.วรยุทธ ฟ่องสุทธิพิทักษ์ สว.สอบสวน สภ.อ่าวนาง เมื่อวันที่ 30 พ.ย.64
หลัง จนท.อุทยานฯ นำเอกสารตรวจยึดปี 2546 ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนแล้ว ต่อมา จนท.ตำรวจ พร้อม จนท.อุทยานฯ เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่หน้าหาดคลองสน
เป็นพื้นที่ในแปลงตรวจยึดเมื่อปี 46 จนท.พบมีการแผ้วถางป่า และต้นไม้ใหญ่ริมหาดจนเตียนโล่ง เนื้อที่ 8 ไร่เศษ พื้นที่อยู่ห่างจากที่ตั้งของ สนง.อุทยานฯ ไม่ถึง 5 กม. ทางตำรวจจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ยังพบว่ามีบังกะโล รีสอร์ท และบ้านพักอาศัย อีกกว่า 10 แห่ง ถูกปลูกสร้างติดกับพื้นที่ดังกล่าว บางรายมีการล้อมรั้วลวดหนามเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล
นอกจากนี้ยังพบบ้านหรูส่วนตัว มีรั้วรอบขอบชิด แต่พบมีตอไม้ใหญ่อยู่ปากทางเข้าบ้าน และยังพบว่ามีหมุดที่ดินเป็นแนวเขตของแต่ละราย
ซึ่งทาง จนท.ทำการตรวจพิกัดกับจีพีเอส พบว่าพื้นที่ทั้งหมดที่มีสิ่งปลูกสร้าง ติดอยู่ในแปลงตรวจยึดทั้งหมด เป็นพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง และป่าหางนาค และยังอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ทั้งหมดด้วย
นายปราโมทย์ กล่าวว่า การตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากทางกรมอุทยานฯ ใช้การบินสำรวจพื้นที่แปลงตรวจยึดใน จ.กระบี่ โดยพบว่าสภาพพื้นที่หน้าหาดคลองสน ในเนื้อที่ 125 ไร่ เกิดสภาพความเปลี่ยนแปลง
โดยเฉพาะที่ดินริมหาดเนื้อที่ 8 ไร่ มีสภาพเพิ่งถูกแผ้วถางใหม่ จึงสั่งให้ชุดลาดตระเวน เข้าไปตรวจสอบก็พบว่ามีการแผ้วถางได้ไม่นาน จากนั้นจึงเข้าแจ้งความไว้เพื่อให้ตำรวจติดตามกลุ่มผู้บุกรุกมาดำเนินคดี
โดยพื้นที่ 125 ไร่ ที่เคยตรวจยึดไว้เมื่อปี 2546 เป็นที่ดินหน้าหาดตลอดแนว เดิมเป็นพื้นที่ป่าเสม็ด และป่าชายเลน ถูกแผ้วถางเพื่อเข้ายึดถือครอบครอง เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าว เป็นชายหาดสวยงาม
หากมีการครอบครองแล้วนำไปซื้อขายจะมีมูลค่ามหาศาลนับพันล้านบาท เนื่องจากเป็นพื้นที่หาดที่สวยงาม และอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั้งหาดอ่าวนาง หาดคลองม่วง และหาดเกาะกวาง
ด้าน พ.ต.ท.วรยุทธ กล่าวด้วยว่า วันนี้ทางพนักงานสอบสวน นัดให้ จนท.อุทยานฯ นำชี้พื้นที่ที่มีการบุกรุก ปรากฎว่านอกจากแปลงที่เพิ่งแผ้วถางใหม่ 8 ไร่เศษ ยังพบว่าที่ดินแปลงอื่นที่มีการก่อสร้างเป็นบังกะโล รีสอร์ท รวมถึงบ้านพัก และยังมีหมุดที่ดินเป็นแนวเขตชัดเจนหลายแปลง
จากการตรวจพิกัดพบที่ดินแปลงดังกล่าวยังติดอยู่ในแปลงที่อุทยานฯ เคยตรวจยึดไว้ตั้งแต่ปี 2546 ทั้งหมด หลังจากนี้จะประสานไปยังผู้ที่อ้างสิทธิเป็นเจ้าของที่ดินทุกแปลงหน้าหาดดังกล่าว นำเอกสารสิทธิมาแสดง และมาให้ปากคำ
ว่ามีการออกเอกสารสิทธิครอบครองมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และเป็นเอกสารครอบครองถูกต้องหรือไม่ ข้อสังเกตที่น่าสนใจ พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในแปลงตรวจยึดไว้ก่อนแล้ว มีการออกเอกสารสิทธิครอบครองได้อย่างไร
เบื้องต้นที่ตรวจพบผู้ครอบครองพื้นที่มีไม่ต่ำกว่า 10 ราย หากพบว่ารายใดมีการกระทำความผิดก็จะเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีทั้งหมดส่วนกระบวนการออกเอกสารสิทธิ เป็นหน้าที่ของกรมที่ดิน และหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบอีกครั้งว่าออกโดยมิชอบหรือไม่