
วันที่ 4 ธ.ค.64 ร.ต.อ.ขันติ เพียรสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งว่ามีเหตุฆ่ากันตายบริเวณบ้านแจ้งเจริญ หมู่ที่ 2 ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิ และ หน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ
ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย สภาพใบหน้าแหลกเละ หัวแบะ สมองกระจายเกลื่อน นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อสีเขียว กางเกงยีนขายาว ทราบต่อมาชื่อนายวิจิตร อายุ 30 ปี อาศัยบ้านหมู่ที่ 2 ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ
ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ ทราบต่อมาชื่อนายธนกริช อายุ 44 ปี อาศัยบ้านหมู่ที่ 2 ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เป็นพี่ชายของผู้ตาย ที่ใช้มีดอีโต้ฟันหัวนายวิจิตร จนหัวแบะเสียชีวิตที่บริเวณหน้าบ้าน
ใกล้กันยังพบขวดเหล้าขาวตั้งอยู่พร้อมถ้วยเปล่า มีดตั้งอยู่ไม้กระดานที่ตั้งวงเหล้า ตำรวจได้ควบคุมตัวนายธนกริช พี่ชายผู้ก่อเหตุไปชี้บริเวณที่เกิดเหตุและได้เล่าสาเหตุที่ก่อเหตุให้ตำรวจฟัง
นายธนกริช พี่ชายผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ใช้มีดอีโต้ฟันหัวน้องชายแบะเสียชีวิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้เดินทางกลับมาจากสวน เพื่อที่จะมาชาร์จแบตเตอรี่ แต่มาถึงบ้านน้องชายที่กำลังนั่งดื่มสุราอยู่หน้าบ้านกลับต่อว่าให้ตนว่าตนนั้นไปขโมยของน้องชายไป ก่อนที่จะปรี่เข้ามาชกต่อยตน
ตนจึงคว้ามีดและไม้ที่อยู่บริเวณหน้าบ้าน ฟันและทุบเข้าที่หัวน้องชาย ก่อนที่น้องชายของตนจะล้มลง ตนจึงซ้ำจนแน่นิ่ง หัวสมองกระจุบกระจายเกลื่อน
ทางด้าน น.ส.มินตรา อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ก่อเหตุเล่าว่า ตนและสามีซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางกลับมาบ้าน หลังจากที่ตนและสามีนั้นไปนอนอยู่ที่ไร่ตลอด
วันนี้ตนและสามีจะกลับมาชาร์จไฟแบตเตอรี่ และซื้อกับข้าวกลับไปที่สวน กระทั่งมาพบน้องชายที่กำลังดื่มสุราจนเมาได้ที่คว้ามีดวิ่งเข้ามาจะทำร้ายตน ก่อนที่สามีจะเข้าชุลมุนกระหน่ำตีและใช้มีดอีโต้ฟันหัวน้องชายจนเสียชีวิต
ทางด้าน ร.ต.อ.ขันติ เพียรสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ ได้ให้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ได้ควบคุมตัวนายธนกริช สีแล พี่ชายผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ใช้มีดอีโต้ฟันหัวน้องชายแบะเสียชีวิตขึ้นรถเพื่อไประงับสติอารมณ์และสอบปากคำถึงสาเหตุและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ สภ.เมืองชัยภูมิ
พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนผู้เสียชีวิตนำร่างกลับมาชันสูตรอีกครั้ง ก่อนประสานให้ญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป