
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 พ.ต.ต.อุทิศ พาราษฎร สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งชายเสียชีวิตอยู่ในร่องน้ำข้างสะพานปูนทางเดินเท้าเลียบคลองบางน้ำจืด หมู่ที่ 8 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และแพทย์เวรโรงพยาบาลบางพลี มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุได้พบชายศพนายธีรยุทธ อายุ 37 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนสะพานปูนทางเดินเท้าริมคลองดังกล่าว โดยมีชายวัย 62 ปี ผู้เป็นพ่อ และแม่วัย 56 ปี นั่งเฝ้าศพอยู่ไม่ห่าง
สภาพศพผู้เสียชีวิตเบื้องต้นพบบาดแผลปูดบวมที่ด้านหลังศีรษะเหนือกกหูข้างขวาและมีเลือดไหลออกจากหูขวาจำนวนมาก คาดเกิดจากแรงกระแทกที่ศีรษะอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้มูลนิธินำส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่นิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดีสมุทรปราการ
นางทองใส อายุ 56 ปี ได้เล่าทั้งคราบน้ำตาว่า ตนและลูกชายที่เสียชีวิตได้พากันมาหาปลาและผักเพื่อนำกลับไปทำอาหารกินมื้อเย็น โดยพากันออกมาตั้งแต่ช่วงสายของวันนี้
ระหว่างที่ตนกำลังยกยอหาปลา ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ500 เมตร นายธีรยุทธ ผู้ตายได้บอกว่าจะเดินหาเก็บผักให้แม่ ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร และพบเห็นลูกชายครั้งสุดท้ายช่วงเวลาประมาณ 11 โมง จนกระทั่งบ่ายสามจะกลับห้องพัก แต่ไม่เจอลูกชายจึงออกตามหาก็ไม่พบ
จึงตัดสินใจโทรเรียกลูกชายอีกคนให้ออกมาช่วยตามหาจนมาพบลูกชายหัวคะมำคว่ำหน้าในร่องน้ำริมทางเท้า ในมือยังกำยอดต้นขี้เหล็กไว้แน่น แต่พบว่าเสียชีวิตแล้วจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ด้านพ่อของผู้ตาย เผยว่า ครอบครัวตนมีลูกทั้งหมดสามคน โดยผู้ตายเป็นลูกคนโต และมีโรคประจำตัวคือโรคลมชัก จนต้องออกจากงานและยังหางานไม่ได้เนื่องจากพิษโควิด
ตนและภรรยาจึงตัดสินใจบอกลูกชายว่าไม่ต้องไปทำงานให้พักอยู่บ้านเนื่องจากสุขภาพไม่ดี โดยพ่อกับแม่และน้องจะหาเลี้ยงเอง ที่ผ่านมาลูกชายก็จะพักอยู่แต่ในห้องไม่เคยออกมาช่วยแม่หาปลาหรือหาผัก
แต่พอมาวันนี้เอ่ยปากอยากช่วยแม่หากับข้าวจึงขอซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ แม่ออกมาด้วยเพื่อหาเก็บผักตามข้างทางไปทำกับข้าวมื้อเย็นแต่สุดท้ายก็มาประสบเหตุเสียชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าระหว่างที่ผู้ตายกำลังผักอยู่ที่ริมสะพานปูนทางเดินเท้าอยู่นั้น ได้เกิดเสียหลักหน้าคว่ำตกลงไปในร่องน้ำข้างสะพานปูนศีรษะไปกระแทกกับท่อส่งน้ำประปาซึ่งเป็นท่อปูนอย่างแรงจนทำให้สมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรงและเป็นเหตุให้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป