
วันที่ 23 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีที่ มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพสุนัข แม่ลูกอ่อน พันธุ์ไทยหลังอาน สีน้ำตาล ลักษณะสวยงามมาก แต่มีกระสุนปืนฝังอยู่ บริเวณราวนม พร้อมระบุข้อความว่า
“โดนยิงครับยังเลี้ยงลูกไม่ทันโตก็โดนคนใจร้ายยิง ใครพอจะรู้ที่ผ่าตัดเอาลูกปืนออกบ้างครับ ราคาผ่าแพงไหมคับใครพอรู้บ้างครับ กลัวไปผ่าแล้วตังไม่พอจ่าย สงสารมากถึงจะเจ็บแต่ก็ยังไห้นมลูก” โพสต์ลงในกลุ่มคนรักนาเฉลียง(เพชรบูรณ์)
เพื่อสอบถามหาคลีนิกรักษาสัตว์ที่ราคาไม่แพง เพื่อผ่าเอากระสุนออก เนื่องจากสงสารเวลาให้นมลูกกิน บางทีลูกก็เอาเท้าถีบ บางทีก็แย่งดูดนมกินกัน จนไปถูกบาดแผลที่กระสุนฝั่งอยู่
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากกลุ่มผู้ใจบุญว่า ได้ช่วยกันหาคลินิกสัตวแพทย์ที่รับผ่ากระสุนให้เจ้ากาแฟ ในราคาที่ไม่แพง นอกจากนี้ยังได้ช่วยกันระดมทุน เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ผ่ากระสุนออกให้เจ้ากาแฟ สุนัขแม่ลูกอ่อน ที่น่าสงสาร อีกด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังนายศิริวัฒน์ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของเจ้ากาแฟ สุนัขแม่ลูกอ่อนที่ถูกยิง เพื่อแจ้งให้ทราบว่า มีกลุ่มผู้ใจบุญประสงค์ที่จะช่วยเหลือเจ้ากาแฟและให้นำเจ้ากาแฟ มาทำการผ่าตัดที่คลินิก กนิษฐาสัตวแพทย์ที่ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์
ทำให้นายศิริวัฒน์และครอบครัวรู้สึกตื้นตันและดีใจมาก ที่มีคนช่วยเหลือเจ้ากาแฟ ในครั้งนี้ เพราะเจ้ากาแฟจะได้ไม่ต้องทนเจ็บปวดบาดแผลอีกต่อไป
จากการตรวจบาดแผลที่ถูกยิงพบว่า ยังโชคดีที่กระสุนไม่ไปถูกอวัยวะที่สำคัญ อย่างอื่น แต่ถ้าขืนปล่อยไว้ก็อาจจะทำให้แผลติดเชื้อได้ในอนาคต และอาจยากในการรักษา ซึ่งทางที่ดีที่สุดก็คือต้องผ่าเอากระสุนออก
โดยทางคุณหมอเลือกใช้วิธีฉีดยาชาแทนการฉีดยาสลบ เนื่องจากเจ้ากาแฟยังต้องให้นมลูกๆ อยู่ และให้เจ้าของเป็นคนช่วยจับอยู่ข้างๆ หลังจากนั้นจึงได้เริ่มผ่าเอากระสุนที่ฝังออก และเมื่อผ่ากระสุนออกมาได้เป็นผลสำเร็จ พบว่าเป็นกระสุนลูกตะกั่วสีดำ
จากนั้นก็ทำการเย็บแผลและให้ยาแก้ปวดกลับไปหาลูกๆ ได้ ซึ่งจากอาการโดยรวมไม่น่าเป็นห่วง คาดว่า 7 วัน แผลก็น่าจะเริ่มหายเป็นปกติ นอกจากนี้ยังพบว่า ทันทีที่เจ้ากาแฟได้รับการผ่าเอาหัวกระสุนออก เจ้ากาแฟก็มีอาการคล้ายดีใจกระดิกหางไม่หยุด