
วันที่ 19 ต.ค.64 จากผลพวงของพายุเตี้ยนหมู่และคาปาซุ ที่ลดความแรงลงเป็นร่องมรสุมพัดผ่านในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ที่ผ่านมา แม้ว่าจะผ่านไปแล้ว แต่ก็ทำให้เกิดฝนตกและมีมวลน้ำไหลเข้ายังอ่างเก็บน้ำทั้ง 17 แห่งในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์จำนวนมาก
จนทำให้อ่างเก็บน้ำ 11 แห่ง จากทั้งหมด 17 แห่ง เต็มความจุ และไหลล้นออกมา
โดยเฉพาะที่อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ตำบลเฉนียง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำจนเกินความจุ และไหลล้นสปริงเวย์ออกมา ทำให้เกิดเป็นปรากฏการณ์น้ำตกหน้าสปริงเวย์
ชาวบ้านในพื้นที่และพื้นข้างเคียงที่ทราบข่าวต่างพาลูกหลานออกมาเที่ยวเล่นน้ำที่ไหลล้นสปริงเวย์ และถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก นับเป็นปรากฏการณ์ในรอบหลายปีที่กลับมาอีกครั้ง
ส่งผลทำให้ร้านค้าที่อยู่ด้านล่างอ่างฯมีลูกค้าเพิ่มขึ้น คาดว่าน้ำจะไหลล้นสปริงเวย์เพิ่มมากกว่านี้อีกใน 1-2 วันนี้ เป็นระยะเวลาประมาณ 4-5 วัน
โดยนายสุวพงศ์ กิติภทรพิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำในบริเวณดังกล่าว โดยพบว่าน้ำได้เริ่มไหลล้นสปริงเวย์อย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเรื่อย
ซึ่งน้ำที่ไหลล้นสปริงเวย์ไม่เป็นอันตรายต่อผู้คนที่มาเที่ยวเล่น รวมทั้งพื้นที่ท้ายอ่างแต่อย่างใด โดยจะปล่อยให้ไหลล้นอยู่ประมาณ 4-5 เซนติเมตรเท่านั้น ยังไม่มีปัญหาใดๆกับพื้นที่การเกษตร และเป็นผลดีให้ประชาชนได้มาเที่ยวชม
ซึ่งนายสุวพงศ์ กิติภัทรพิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในภาพรวมของจังหวัดสุรินทร์ ขณะนี้ความเดือดร้อนยังไม่มาก ในส่วนของตัวเมืองและเทศบาลแทบไม่มีเลย อาจจะมีน้ำระบายช้าบ้างไม่มากนัก
ในส่วนของอำเภอรอบนอกที่รับแจ้งเช้ามาเช่น อำเภอท่าตูม ชุมพลบุรี และรัตนบุรี ซึ่งติดกับแม่น้ำมูล มีมวลน้ำเอ่อล้นเข้าท้วมพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน เท่าที่ติดตามสถานการณ์อาจไม่นาน เนื่องจากว่าน้ำที่ไหลงผ่านเริ่มลดลงบ้างแล้ว
ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน ก็ได้มีการกำชับตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว ก่อนน้ำจะเพิ่มขึ้น โดย ปภ.ได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดูแลประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทางอำเภอแจ้งเข้ามาก็ได้มีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย หากเกิดปัญหาก็จะต้องชดเชย หรือเยี่ยวยาประชาชน
หากใช้งบประมาณก็จะต้องบรรจุเข้าในส่วน กบจ. เพื่ออนุมัติเงินช่วยเหลือต่อไป ในส่วนของอ่างเก็บน้ำหลักๆในจังหวัดสุรินทร์ มีปริมาณน้ำเต็มความจุเกือบทั้งหมด และไม่น่ามีปัญหาในการกักเก็บน้ำไว้ใช้ไปอีกปี ทั้งหมดยังบริหารจัดการได้
และจังหวัดได้มีการบริหารจัดการน้ำตามนโยบายรัฐบาล ในการที่จะกักเก็บน้ำที่ไหลหลากไปไว้ใช้ ทางจังหวัดได้เตรียมประสานจัดหาเครื่องสูบน้ำระยะไกล เพื่อทำการดึงน้ำเข้าไปเก็บยังหนองน้ำขนาดใหญ่ที่ยังมีน้ำอยู่น้อย เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ต่อไป
ด้านนายสมชาย อังศิริลาวัลย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุรินทร์ เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหลักของจังหวัดสุรินทร์ทั้ง 17 แห่ง มีปริมาณน้ำเต็มความจุแล้ว 11 แห่ง ความจุที่187 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุทั้งหมด 145 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมประมาณ 108 เปอร์เซ็น
ในส่วนของอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงที่มีปริมาณความจุที่ 21 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำที่ความจุ 27 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นประมาณ 130 เปอร์เซน ส่วนการระบายน้ำมีการระบายน้ำออกในแต่ละวันประมาณ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และที่มีการชะลอการระบายน้ำลง
เนื่องจากมวลน้ำที่ไหลมาจากนครราชสีมาที่แม่น้ำมูลกำลังไหลผ่านจังหวัดสุรินทร์ จึงทำการชะลอการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำลงสู่แม่น้ำมูล แต่ก็จะมีการปรับการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นในเร็วนี้จาก 1 ล้าน เป็น 2 ล้านลูกบาศก์เมตร
เพื่อรักษาระดับน้ำให้คงไว้ ซึ่งพื้นที่ที่อยู่ท้ายอ่างในขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด