ทาสยาบ้า ฆ่าคนเลี้ยง! ทิดสึกใหม่ ขอเงินย่าซื้อยาบ้าไม่ได้ ทำร้ายจนเสียชีวิต

วันที่ 16 ตุลาคม 2564 เรื่องราวสุดสะเทือนใจ เมื่อหลานชาย ซึ่งเป็นทิดสึกใหม่ได้เพียงแค่ 4 วัน เป็นทาสยาบ้า สุดท้ายก่อเหตุ ทำร้ายร่างกายผู้เป็นย่า ซึ่งเลี้ยงดูผู้ก่อเหตุมาตั้งแต่เล็กจนเสียชีวิต เหตุเพราะขอเงินจากผู้เป็นย่า เพื่อจะไปซื้อยาบ้าเสพ

แต่พอถูกปฏิเสธ จึงลงมือทำร้ายย่า จนได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และได้เสียชีวิต ในเวลาต่อมา  

รายนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุ สภ.เมือง ได้รับแจ้งเหตุว่า หญิงสูงวัยถูกหลานชายทำร้ายร่างกายห่ามส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 14 ตุลาคม 2564 เวลา 20.30 น.ที่ผ่านมา เหตุเกิด ที่บ้าน หมู่ 9 ต.ตะเบาะ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบหญิงสูงอายุนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นบ้านบริเวณหน้าบ้าน ทราบชื่อคือนางแผน  อายุ 76 ปี อยู่ในสภาพใบหน้า และศีรษะ บริเวณท้ายทอย มีบาดแผล และมีเลือดไหลออกทางปาก จมูก หู ถูกนำส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์  

ต่อมาเช้าวันที่ 15 ตุลาคม 2564 นางแผน  อายุ 76 ปี ได้เสียชีวิตลง จากภาวะเลือดออกในสมอง  ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายเกรียงศักดิ์ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นหลานชายผู้ตาย หลังก่อเหตุก็ยืนรออยู่ ไม่ได้หลบหนีไปไหน

และสารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า เป็นคนทำร้านร่างกายผู้เป็นย่า เอง  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้คุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น

ส่วนสาเหตุเกิดจาก นายเกรียงศักดิ์  ได้ขอเงินผู้เป็นย่า เพื่อจะไปซื้อยาบ้ามาเสพ แต่ ถูกผู้เป็นย่า ปฏิเสธ 

สำหรับผู้ก่อเหตุนั้น ผู้ตายเลี้ยงดูมาตั้งแต่ วัยเพียง 3 ขวบ ส่วนแม่ นั้นหนีไปตั้งแต่เล็ก ขณะที่ผู้เป็นพ่อ ก็ได้ไปบวชเป็นพระและตัวผู้ก่อเหตุ เดิมที ได้บวชเป็นพระ อยู่ที่วัดห้วยไคร้ หมู่ที่ 5 ตำบลตะเบาะ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 แต่บวชยังไม่ครบพรรษา จึงได้สึกออกมา เพราะเสพยาบ้า  โดยทำการสึกมาได้เพียงแค่ 4 วัน ก่อนมาก่อเหตุ ทำร้ายร่างกายผู้เป็นยาย จนเสียชีวิต 

จากการสอบถาม พระสมเกียรติ  สันตะมโน อายุ 56 ปี ผู้เป็นพ่อผู้ก่อเหตุ  กล่าวว่า ปกติลูกชายจะเป็นคนนิสัยดี แต่ถ้าเมาก็จะไม่เชื่อฟังใคร บอกอะไรก็โกรธ ก็เครียด  ลูกชายตน เพิ่งสึกออกจากความเป็นพระ ได้เพียง 3-4 วัน เพราะเสพยาบ้า จึงต้องสึกออกจากวัด  

ส่วนเหตุการณ์ตนไม่ทราบเรื่องเลย เพราะอยู่บนเขา  ลูกชาย ย่าเป็นคนเลี้ยงดูมาตั้งแต่ 3 ขวบ  ส่วนตนเองก็ไปบวชเป็นพระตั้งแต่ลูกชายอายุได้ 5 ขวบ ย่า จึงเป็นคนเลี้ยงดูให้มาโดยตลอด  

เรื่องการทำร้ายทุบตีย่า ลูกชายก็ไม่เคยทำมาก่อน เมื่อก่อนนี้ ลูกชายตนทำงานอยู่ร้านทำโต๊ะจีนแห่งหนึ่ง แต่เมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมาลูกชายประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์คว่ำ รักษาตัวจนหายก็กลับไปทำงาน  

ช่วงระยะหลังมาลูกชายตนเมาบ่อย เมาทั้งเหล้าทั้งยาพูดจาไม่รู้เรื่อง ใครบอกอะไรก็ไม่ฟัง  ลูกชายตนได้มาขอเงินจากผู้เป็นย่าอยู่บ่อยๆ ย่าก็ปฏิเสธบ่อยเหมือนกัน บางครั้งมาขอเงิน 200 บาท ย่าก็จะให้ไป 50 บาท บ้าง 100 บาทบ้าง

โดยส่วนตัวคิดว่าลูกชายอาจจะมาขอเงินย่าแต่ถูกย่าปฏิเสธ เลยเกิดโมโห เลยลงมือทำร้ายย่า จนอาการสาหัสนำส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และมาเสียชีวิตในวันที่ 15 ตุลาคม เวลา 06.00 น.

โดยแพทย์แจ้งว่ามีเลือดออกในสมองเยอะไม่สามารถผ่าตัดได้เพราะอายุมากแล้ว ถ้าผ่าไปก็จะเสียชีวิตระหว่างผ่าตัด หมอได้ทำการปั้มหัวใจขึ้นมาได้แต่ตนก็ได้บอกหมอไปว่าไม่ต้องปั้มแล้ว ให้ท่านหมดไปตามกรรมของท่านเองท่านจะได้ไม่ทรมานอีก

จากการสัมภาษณ์ นายสมพงษ์  อายุ 51 ปี ผู้เป็นอา กล่าวว่า นายเกรียงศักดิ์ หลานชาย ได้กลับมาจากข้างนอกด้วยอาการมึนเมา ได้แวะเข้ามาบ้านตนเองซึ่งบ้านอยู่ข้างๆกัน  และได้มาร่วมดื่มเหล้ากับตน 2- 3 เป๊ก

ขณะเดียวกันหลานชายอีกคนของตนเองก็มานั่งทำกับข้าวด้วยกัน  นายเกรียงศักดิ์ก็เริ่มหาเรื่องกับหลานชายและทุกคนในบ้านของตน โดยการท้าตีท้าต่อย

ส่วนตนก็ได้บอกนายเกรียงศักดิ์ หลานชาย  ให้กลับบ้านตัวเองซะเพราะบ้านนี้อยู่ในช่วงกักตัวโควิดอยู่  นายเกรียงศักดิ์ หลายชายก็เดินออกมาจากบ้านของตนพร้อมกับยืนตะโกนโวยวายเดินกลับมาที่บ้านย่าที่พักอาศัยอยู่ด้วย  ด้วยอาการโมโหคลุ้มคลั่งเดินไปมาไม่หยุด

ส่วนตนเองก็ได้เตือนนายเกรียงศักดิ์ หลานชาย ว่าอย่าเสียงดัง หลานชายก็ได้เงียบลง  ขณะเดียวกับที่ย่าของนายเกรียงศักดิ์ ก็นั่งกินหมากอยู่ในบ้าน พอตนกลับออกมานายเกรียงศักดิ์ ก็เริ่มโวยวายอีกครั้ง

ซึ่งตอนนั้นตนไม่รู้ว่านายเกรียงศักดิ์ ทำร้ายผู้เป็นย่า เพราะขณะนั้นฝนตกเสียงดังมาก มารู้อีกทีนายเกรียงศักดิ์ ได้ตะโกนเรียกลูกชายของตนซึ่งกำลังทำกับข้าวอยู่ว่า “ มาดูย่ามึงหน่อย กูสอยย่ามึงแล้ว “

พวกตนก็รีบวิ่งมาดูก็เห็นย่านอนจมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน  นอนแน่นิ่งเงียบไป  นายสมพงษ์  ผู้เป็นอา  ยังกล่าวต่ออีกว่า หลานชายย่าเป็นคนเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กอายุ ประมาณ 3 ขวบ นิสัยก็ดี ถ้าไม่เมาก็ดี

ตั้งแต่เลิกกับแฟนมาก็เริ่มเป๋  ปกติหลานชายไม่เคยทำร้ายย่ามาก่อน  แต่วันนี้เมามาและตนเองก็ไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะวันนั้นยืนคุมหลานชายอยู่ พอตนเดินคล้อยหลังไปเท่านั้นก็มาเกิดเรื่องเลย  

ผู้เป็นย่ารักหลายชายคนนี้มากเพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กๆคอยดูแลหลานชายตลอด ตนเองก็เสียใจไม่น่ามาเกิดเหตุแบบนี้เลย