Sanook77

อย่าด่าพ่อ ล่อแม่! หนุ่มทนไม่ไหว จ่อยิงเพื่อนชายสาวเสิร์ฟ ดับคาที่

เพชรบูรณ์ข่าว
//s.isanook.com/ss/0/ud/3/19264/image10.jpg

วันที่ 16 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 ตุลาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุเตย อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งว่า

มีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าห้องเช่า สีชมพู ไม่มีเลขที่ ซึ่งตั้งอยู่ติดริมเส้นทางหลวงหมายเลข 21 ถนนสายสระบุรี-หล่มสัก หมู่ 2 ต.พุขาม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ 

ที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้า จมกองเลือด อยู่ท้ายรถยนต์กระบะ สวมเสื้อสีแดง กางเกงขายาวสีดำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้น แบบลูกโม่ ขนาด .38 เข้าที่บริเวณศีรษะจำนวน 3 นัด และพบหัวลูกกระสุนปืน ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ทราบชื่อผู้ตายภายหลังว่าคือ นายกิตติภัฏ อายุ 45 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.เกาะเต่า อ.ป่าพยอม จ.พัทลุง โดยมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุว่าคือ นายอนุชา อายุ 51 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.พุขาม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ หลังจากก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ซาเล็งหลบหนีไป 

โดย พ.ต.อ.ธีรพงษ์ ผลนาค ผกก.สภ.พุเตย เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดจากความหึงหวง ที่ทางด้านนายอนุชา ผู้ก่อเหตุ ไปชอบพอกับนางสาวแก้ว อายุ 41 ปี พนักงานเสิร์ฟร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้ที่เกิดเหตุ ที่ไปนั่งดื่มเหล้าอยู่กับผู้ตาย

ด้วยความไม่พอใจที่เห็นฝ่ายหญิงไปใกล้ชิดกับผู้ตาย จึงได้ประกาศว่าจะเอาปืนมายิงฝ่ายหญิง แล้วผู้ก่อเหตุก็ขับรถซาเล้งกลับมาพร้อมด้วยอาวุธปืนพกสั้นแบบลูกโม่ เพื่อมายิงนางสาวแก้ว ทันทีที่ผู้ตายเห็นจึงได้ผลักนางสาวแก้วออกไป แล้วรับกระสุนแทน 3 นัด ทำให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาไว้ 2 ข้อหา คือ 1 ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ  

ขณะที่ นางธันชก น้องสาวผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า พี่ชายคือ นายอนุชา เป็นคนนิสัยดี อารมณ์ดี จะคอยขี่รถซาเล้งพาหลานๆ ไปเที่ยวประจำ ไม่คิดว่าพี่ชายจะมาก่อเหตุดังกล่าว โดยปกติ พี่ชายจะเป็นคนคอยช่วยน้องสะใภ้ทำงานที่ร้านอาหาร ที่นางสาวแก้ว ทำงานอยู่

ในวันเกิดเหตุ พี่ชายคือนายอนุชา ได้มาระบายกับตนว่า ผู้ตายชอบพูดจาดูถูกดูหมิ่นตนและด่าถึงบุพการี ด้วยคำที่หยาบคาย ซึ่งตนคิดว่าสาเหตุอาจจะมาจากการที่พี่ชายถูกผู้ตายด่า จนเกิดความแค้นมากกว่าเรื่องหึงหวง

ซึ่งตนก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ตนเองคงต้องให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนไปตามกฎหมาย  

จากการสอบถามผู้ก่อเหตุคือ นายอนุชา อายุ 51 ปี เล่าว่า เหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้คือ นายกิตติภัฎ ผู้ตาย ได้มาพูดจาดูถูกตนเอง และด่าตนด้วยคำหยาบคาย รวมทั้งการใช้ถ้อยคำด่าถึงบุพการี ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แค่เคยเจอและพูดคุยกันบ้างในวงเหล้าเท่านั้น

ที่ทำไปก็เพราะอารมณ์ชั่ววูบ ส่วนเรื่องที่ว่าตนไปหึงหวงนางสาวแก้ว พนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารน้องสะใภ้นั้น ไม่จริง เพราะตนคิดกับนางสาวแก้ว แค่น้องสาวเท่านั้น  

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวภาคกลางเพชรบูรณ์

เนื้อหาโดย

Amaorn T.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

นายกฯเศรษฐา เป็นห่วงท่องเที่ยวและงานโมโตจีพี หลัง กองทุนพัฒนากีฬาฯ ตัดงบ 150 ล้านบาท
กรุงเทพมหานครข่าว

นายกฯเศรษฐา เป็นห่วงท่องเที่ยวและงานโมโตจีพี หลัง กองทุนพัฒนากีฬาฯ ตัดงบ 150 ล้านบาท

โดยปางปราบมาร/
โหลดเพิ่มเติม