
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสุวนนท์ หรือ มอส ปันแดง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 7 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย แม้ร่างกายจะเป็นผู้พิการทางการได้ยินหูหนวกพูดไม่ได้
แต่ไม่ได้ย่อท้อต่อชีวิตได้ตั้งใจฝึกฝนการชงกาแฟและน้ำดื่มอีกหลากหลายชนิดจนเชี่ยวชาญ หันมาเปิดร้านกาแฟสดชื่อ “ค่าเฟ่ริมทางคนหูหนวก” ตั้งอยู่ริมถนนระหว่างแยกบ้านวิเรียมไปทางสนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย อยู่พื้นที่บ้านร่องก๊อ หมู่ 5 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย
โดยนำเต๊นท์ผ้าใบขนาด 3คูณ3เมตร มีโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ เครื่องใช้สำหรับชงกาแฟสด มาตั้งอยู่ริมถนนสายดังกล่าวเปิดให้บริการลูกค้าทุกวัน จนได้รับการตอบรับจากลูกค้าให้ความสนใจมาแแวะซื้อน้ำดื่มและกาแฟไปทานกันอย่างไม่ขาดสาย
และมีการถ่ายภาพไปโพสต์ตามสื่อออนไลน์ต่างๆจนได้รับการชื่นชมจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก
โดย นายสุวนนท์ ระบุว่าตนได้เปิดร้านแห่งนี้มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564ที่ผ่านมานี้ โดยจะใช้รถจักรยานยนต์แบบมีพ่วงด้านหลังบรรทุกสิ่งของเครื่องใช้สำหรับขายกาแฟ
ขับมาจากบ้านซึ่งอยู่ห่างจากจุดนี้ประมาณ 4.1 กิโลเมตร มาเปิดขายขายกาแฟสดและน้ำดื่มให้กับผู้สัญจรผ่านไปมาตามท้องถนนได้รับประทาน ในราคาไม่แพงซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุนจำนวนมาก
มีรายได้แต่ละวันไม่เท่ากันมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่จังหวะคนที่ขับรถผ่านมาและสภาพอากาศที่ช่วงนี้ฤดูฝน ทั้งนี้ก่อนจะมาขายกาแฟตนเองเรียนจบระดับชั้น ม.6 ที่โรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จ.เชียงใหม่
หลังจากนั้นจึงไปทำงานที่ กทม. เป็นเวลา 4 ปี และได้ลาออกมาอยู่บ้านว่างงานอยู่ 1 ปี ต่อมาตนได้สนใจขายกาแฟ และได้คำแนะนำจากเพื่อนชาวจังหวัดน่านในเรื่องกาแฟ จึงมีแนวคิดที่อยากจะเปิดร้านกาแฟเพื่อเป็นอาชีพและสร้างรายได้เลี้ยงตนเอง
นายสุวนนท์ กล่าวอีกว่าจากนั้นตนเองก็ได้ไปศึกษาและทดลองชงกาแฟที่ร้านของเพื่อนในเชียงราย รวมไปถึงศึกษาจากการดูในโซเซี่ยล จึงตัดสินใจใช้เงินเก็บมาลงทุนประมาณ 10,000 บาท มาเปิดคาเฟ่ริมถนน
โดยใช้เมล็ดกาแฟทั่วไปในประเทศ ที่ไหนอร่อยก็สรรหามาให้ลูกค้าได้ชิม รวมไปถึงกาแฟขี้ชะมด โดยมีกระดาษและปากกาไว้ให้ลูกค้าได้เขียนสั่งเมนู เพราะตนหูหนวกพูดไม่ได้ ฟัง ไม่ได้ยินต้องเขียนสั่งเท่านั้น
ปกติจะเปิดร้านทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-17.00น. จะหยุดก็ต่อเมื่อติดธุระจำเป็นจริงๆหรือในวันที่ฝนตกหนักก็จะหยุดขาย
ขณะที่ลูกค้าที่มาแวะอุดหนุนต่างบอกว่ากาแฟสดทั้งร้อน-เย็น และเครื่องดื่มต่างๆเขาทำได้อร่อยและการชงก็พิถีพิถัน ส่วนราคาก็ไม่แพงอีกด้วยอยู่ที่เพียงแก้วละ 30-50 เท่านั้น
หลายคนนอกจากเขียนสั่งกาแฟยังเขียนข้อความชื่นชมและให้กำลังใจนายสุวนนท์ กันด้วย เพื่อให้สู้ชีวิตต่อไปและจะแวะมาอุดหนุนเรื่อย
หลายคนอดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปและนำเรื่องราวของนายวุนนท์ไปโพสต์บอกเรื่องราวให้กับคนอื่นๆให้ได้รับร่วมชื่นชมและมาช่วยกันอุดหนุนกาแฟและน้ำดื่มของนายวุนนท์ด้วย