วันที่ 21 กันยายน 2564 ทางสมาคมกู้ภัยมณีดวงแก้วกุศลสงเคราะห์ ได้รับแจ้ง ว่าขอให้เข้าไปรับผู้บาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืนในป่าลึก ซึ่งเข้าไปทางน้ำตกแม่ปาน บ้านปางอ่าย ตำบลเมืองปาน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง
จึงนำกำลังเดินเท้าเข้าไปร่วม 10 กิโลเมตร ลัดเลาะไปตามสันเขาของน้ำตก และเดินลัดไปตามทางเดินเท้าในป่า ซึ่งเมื่อเดินไปได้ครึ่งทางก็พบว่ามีกลุ่มชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้ช่วยกันหามร่างของ
นายธนู อายุ 49 ปี อยู่บ้าน ม.1 ต.เมืองปาน ออกมาจากป่าลึก และได้ผ่องถ่ายให้กับทีมกู้ภัยเพื่อช่วยผลัดกันหามออกมาจากป่า ข้ามน้ำตก และมายังที่จอดรถ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งมี พ.ต.อ.รัฐการ สุรงคบพิตร ผู้กำกับการ สภ.เมืองปาน พร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติพงษ์ บ้านคุ้ม รอง ผกก.สืบสวนฯ พร้อมแพทย์ รพ.เมืองปาน เข้าร่วมชันสูตรพลิกศพ
พบว่าผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง เข้าที่ร่างกายหลายนัด จากนั้นจึงนำศพไปชันสูตรต่อที่ รพ.เมืองปาน พบว่ากระสุนฝังที่หน้าอก 1 นัด และที่ขาซ้ายอีก 7 นัด
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายบุญธรรม อายุ 65 ปี อยู่หมู่บ้านเดียวกันและสนิทกัน ทราบว่าก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 19 ก.ย.นายบุญธรรมพร้อมด้วยผู้ตายได้ชวนกันเข้าไปหาเห็ดและส่องหมูป่าในป่า
เนื่องจากหาเห็ดโคนต้องหาเวลากลางคืน ซึ่งคืนดังกล่าวได้เห็ดไม่มากจึงชวนกันอยู่ต่อเพื่อหาในตอนเช้าอีกรอบจนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น.จึงออกมาเห็ดโดนแยกกันหา
กระทั่งนายบุญธรรมเห็นเงาเงาตะคุ่มจึงคิดว่าเป็นหมูป่าเอาปืนลูกซองที่นำติดตัวไปยิงออกไป จนได้ยิงเสียร้องจึงรีบเข้าไปดูจนทราบว่านายธนูถูกยิง ซึ่งขณะนั้นยังไม่เสียชีวิต
ตนเองจึงรีบเดิน วิ่งออกมาจากป่า ซึ่งมาถึงหมู่บ้านประมาณ 09.00 น.เศษ รีบไปแจ้งกับญาติและชาวบ้านว่านายธนูถูกยิงแต่ยังมีชีวิตอยู่ พร้อมกับบอกพิกัดก่อนที่ชาวบ้านจะเดินทางเข้าไปในป่า
ส่วนตัวของนายบุญธรรมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองปาน จากนั้น กลุ่มชาวบ้านที่เดินทางเข้าไปในป่าพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานฯซึ่งเข้าไปถึงที่เกิดเหตุพบว่านายธนูนอนเสียชีวิตในสภาพนั่งกึ่งนอนพิงกันต้นไม้คล้ายคนนอนหลับ
ได้แจ้งออกมาว่านายธนูเสียชีวิตแล้วและขอประสานทางกู้ภัยฯเข้าไปช่วยเหลือนำร่างออกมา จากนั้นทางทีมกู้ภัยจึงได้เดินทางเข้าไปในป่าซึ่งใช้เวลาพอสมควรเนื่องจากระยะทางไกลและทางลำบาก
ซึ่งเดินทางไปถึงเพียงครึ่งทางกลุ่มชาวบ้านก็หามร่างของนายธนูออกมาและได้ผลัดเปลี่ยนและช่วยกันหามออกมาจากป่าและถึงจุดที่จอดรถ
ด้าน พ.ต.ท.กิตติพงษ์ บ้านคุ้ม รอง ผกก.สืบสวนฯ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายบุญธรรม ซึ่งสนิทกับผู้ตายและเคยเข้าไปหาเห็ดและของป่าด้วยกัน ยอมรับว่าที่ยิงไปเพราะคิดว่าเป็นหมูป่าซึ่งระยะการยิงจากการตรวจสอบน่าจะประมาณ20-25 เมตร น่าจะเป็นลูกปลาย
โดย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง ส่วนทางญาติเบื้องต้นไม่ติดใจการเสียชีวิตเพราะเชื่อว่านายบุญธรรมไม่ได้ตั้งใจ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้ตั้งข้อหากระทำการโดยประมาทจนเป็นเหตุให้อื่นถึงแก่ความตายแล้ว
