
ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ มีเหตุหญิงสูงวัยถูกกระชากกระเป๋าถือ ภายในมีเงินสดประมาณ 500 บาท กับบัตรเอทีเอ็ม โดย คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชายขับรถจักรยานยนต์ เหตุเกิดหลังการบินไทย ซอยวิภาวดี 22
หลังรับแจ้งจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนางพรเพ็ญ อายุ 73 ปี ผู้เสียหาย จากการสอบถามทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ขณะนางพรเพ็ญ ได้เดินถือกระเป๋าสีฟ้า ผ่านตลาดหลังการบินไทย
ได้มีคนร้ายเป็นชายขับรถจักรยานยนต์สีดำ สวมใส่เสื้อสีเขียวแดง ด้านหลังรถติดกระเป๋ากล่องสีเขียวขับรถมากระชากเอากระเป๋าถือ ทำให้ผู้แจ้งล้มคว่ำเกิดเป็นรอยแผลถลอกฟกช้ำที่เข่าขวาและหลังมือทั้งสองข้าง แล้วหลบหนีไปทางปากซอยวิภาวดีรังสิต ซอย22
โดยนางพรเพ็ญ ได้ให้รายละเอียดสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าจำนวนหลายรายการ
เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร ได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายโดยทันที ซึ่งจากการตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA PCX สีดำแดง ด้านหลังมีกล่องบรรจุอาหารสีเขียว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตรวจสอบติดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้ายจากกล้องวงจรปิด ตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนและการป้องกัน อาชญากรรม ของ ผบ.ตร. ที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ เชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิด กรุงเทพมหานคร และกล้องวงจรปิดของ ภาคเอกชน
จนทราบว่าคนร้ายหลบหนีและนำรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุมาจอดอยู่ทางเข้าชุมชนริมคลองบางซื่อ ถนนรัชดาภิเษก แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ จึงได้เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ
และได้พบตัวนายภูริทัต ยืนอยู่ที่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ HONDA PCX สีดำแดง ลักษณะรูปพรรณตรงตามคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวท่าทางมีพิรุธ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจค้น
ผลการตรวจค้น พบของกลางตามที่นางพรเพ็ญ แจ้งว่าถูกประทุษร้าย อยู่ภายในกระเป๋าสตางค์ของ นายภูริทัต สอบถามนายภูริทัต ยอมรับว่าของกลางที่ได้มาโดยการกระชากกระเป๋าของหญิงสูงอายุที่เดินอยู่ภายในซอยวิภาวดี 22 จริง
ส่วนบัตร ATM ธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ ,บัตรประชารัฐ,บัตรประชาชน, บัตรโรงพยาบาล พร้อมกระเป๋าถือสีฟ้าได้นำไปโยนทิ้งคลองน้ำแก้วภายในซอยรัชดาภิเษก 19 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัว และข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “วิ่งราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป”
หลังจากนั้น สน.สุทธิสาร ได้ประสานไปยัง สน.วังทองหลาง เนื่องจากทราบข้อมูลว่า นายภูริทัต มีลักษณะตำหนิรูปพรรณ ยานพาหนะ ตรงกับเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ สน.วังทองหลาง ภายในซอยลาดพร้าว 122 เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 04.30 น.
โดยนายภูริทัต ให้การรับสารภาพว่าเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ภายในซอยลาดพร้าว 122 เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 04.30 น. จริง โดยร่วมกับนายโอ๊ต (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ด้วย ซึ่งทาง สน.วังทองหลาง จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป