
นายสมบัติ เจริญขวัญ พร้อมเพื่อนรวม 4 คนได้ใช้เวลาว่างวันหยุดนัดตกปลากันบริเวณบ้านบ่อเจ็ดลูก ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล โดยเช่าเรือหัวโทงของชาวบ้านและมีชาวบ้านเป็นนายท้ายเรือเพื่อออกไปตกปลาบริเวณเกาะบูโหลน
แต่เมื่อออกเรือไปได้ประมาณ 100 เมตรถึงบริเวณปากทะเล(รอยต่อระหว่างคลองกับทะเล) เรือเสียประกอบกับฝนตกหนักจึงได้ทอดสมอ ระหว่างรอซ่อมเรือจึงได้ตกปลากัน นายสมบัติ กล่าวว่าพวกตน 4 คนมักจะใช้เวลาว่างออกตกปลากัน
ซึ่งวันนี้ก็นัดกับเพื่อนๆ และระหว่างรอการซ่อมเครื่องยนต์เรือ จึงนั่งตกปลา ปรากฏว่านายวิษณุ ทุ่ยอ้น ได้ปลาเก๋าเผือกตัวใหญ่หนัก 4 ก.ก. จึงได้ขังไว้ในท้องเรือ เมื่อดูไปอีกครั้ง ทั้ง 4 คนรู้สึกสงสาร จึงคิดว่าจะปล่อยลงทะเลไป
แต่นึกอีกทีว่าหากปล่อยไปคงไปติดอวนหรือถูกจับไปอีกเพราะร่างกายอ่อนแอ จึงขังไว้และประสานงานกับนายโสภณ อ่อนคง ประมงจ.สตูลเพื่อมอบปลาดังกล่าวไปเลี้ยงไว้เพื่อศึกษาเนื่องจากไม่เคยพบเห็นปลาเก๋าเผือกแบบนี้มาก่อน
ตนพร้อมพวก 4 คนแม้นกระทั่งนายท้ายเรือซึ่งสัมผัสกับทะเลมาตลอดก็ยังไม่เคยเห็น โดยวันนี้ทีมตกปลาของตนได้ปลามาเป็นที่พอใจทั้งปลาเก๋า ปลาสีเสียด ปลาอินทรีย์ ปลาอังจ้อ กะพงแดง แต่ทุกตัวเป็นตัวเล็กขนาดเท่าฝ่ามือ มีเพียงเก๋าเผือกตัวเดียวที่น้ำหนัก 4 ก.ก.
เมื่อขึ้นถึงฝั่งมีนายจรัล หลีหมัน ตัวแทนประมงจ.สตูล มารับปลาตัวดังกล่าวไปเพื่อนำไปอนุบาลให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งเมื่อแข็งแรงแล้วจะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติหรือไม่ก็แล้วแต่เจ้าหน้าที่
ส่วนพวกตนนั้นวันนี้รู้สึกดีใจ ตอนแรกคิดว่าเก๋าเผือกจะตาย แต่ปรากฏว่ารอดตนก็ดีใจเหมือนได้ทำบุญครั้งใหญ่ กับการปล่อยสัตว์ตัวใหญ่ในครั้งนี้