
วันที่ 12 ก.ค64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีหญิงสูงอายุ ในหมู่บ้านตาเป๊ก ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ถูกต่อเกือบ 30 ตัวรุมต่อยอาการสาหัส เพื่อนบ้านและหลานเข้าไปช่วยปัดไล่ตัวต่อออก ก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายทนพิษของต่อไม่ไหวได้เสียชีวิตในที่สุด
ซึ่งญาติได้นำร่างของนางเหม่า นาคนาคา อายุ 86 ปี หญิงสูงอายุที่ถูกต่อต่อยเสียชีวิต ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดในหมู่บ้านตาเป๊ก ต.ตาเป๊ก ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว และญาติ
สอบถามนางธนธร อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่าช่วงเช้าตนทำกับข้าวอยู่บ้านฝั่งตรงข้าม ได้ยินเสียงยายเหม่า ร้องตะโกนเสียงดัง จึงรีบวิ่งออกมาดู แต่พอวิ่งออกไปถึงหน้าบ้านก็เห็นต่อบินมาจำนวนมาก
ด้วยความตกใจจึงวิ่งเข้าไปในบ้าน เพื่อไปหาอุปกรณ์มาปัดตัวต่อไม่ให้ต่อยตัวเอง ทั้งตะโกนเรียกให้คนที่อยู่ใกล้มาช่วยคุณยายเหม่า จากนั้นนายนัฐพงษ์ อายุ 19 ปี หลานชายของยายเหม่า ก็วิ่งเข้ามาช่วยปัดตัวต่อออกจากตัวยาย จนหลานก็ถูกต่อต่อยไปด้วย
แต่คุณยายเหม่า ถูกต่อต่อยทั้งศีรษะ ใบหน้าและตามร่างกายคาดว่าน่าจะเกือบ 30 ตัว พอปัดตัวต่อออกแล้วนายนัฐพงษ์ ก็รีบขับรถจักรยานยนต์พาคุณยายไปส่ง รพ.เฉลิมพระเกียรติ
กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ก็ทราบข่าวว่าคุณยายได้เสียชีวิตแล้วเพราะทนพิษต่อไม่ไหว ยอมรับว่าตกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ซึ่งโดยปกติจะเห็นคุณยายเหม่า มักจะเข้าไปทำความสะอาดตัดเล็มใบกล้วยแห้งออกจากต้น บางครั้งก็เข้าไปตัดใบตองมาใช้ ซึ่งวันเกิดเหตุคุณยายก็เข้าไปตัดใบตองและเก็บใบแห้งออกจากต้นกล้วย
แต่บังเอิญว่าไม้เท้าที่คุณยายเหม่า ใช้ประจำหลุดเข้าไปในกอกล้วยซึ่งมีรังต่อขนาดใหญ่อยู่ แต่คุณยายไม่รู้ว่ามีรังต่อ คาดว่าจังหวะที่ยายเขี่ยหาไม้เท้าน่าจะไปโดนรังต่อ จึงถูกรุมต่อยประกอบกับยายอายุมากจึงวิ่งหนีไม่ทัน
ก็ฝากเป็นอุทาหรณ์คนที่ไปทำไร่ ทำสวน ต้องสังเกตหากพบรังต่อก็ไม่ควรข้าใกล้ ให้แจ้งกู้ภัยฯ หรือผู้เชี่ยวชาญไปช่วยเอาออกเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขขึ้น
ขณะที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาประจำอ.เฉลิมพระเกียรติ ก็ได้นำอุปกรณ์ผ้าชุบน้ำมันแล้วจุดไฟเอาทำลายรังต่อ เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนถูกต่อต่อยซ้ำอีก เพราะหากใครโดนต่อยแล้วแพ้พิษต่อก็ถึงแก่ชีวิตได้