
พ.ต.ท.รณน สุระวิทย์ รอง ผกก.ป. สภ.หาดใหญ่ รับแจ้งรับแจ้งเกิดเหตุลักทรัพย์ภายในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ย่านตลาดทุ่งเสา เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ และทางพนักงานได้กักตัวเอาไว้ในร้าน หลังจากไปตรวจสอบพบผู้ก่อเหตุเป็นหญิงสาวอายุ 44 ปี ชาว ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รูปร่างอ้วนยืนอยู่ข้างเค้าเตอร์ ซึ่งพนักงานได้กักตัวเอาไว้ระหว่างรอตำรวจมาถึง
โดยยืนถือถุงใส่ของซึ่งข้างในเป็นครีมทาหน้า 1 กล่อง และยาทาเล็บ 1 กล่อง ที่แอบหยิบมาจากชั้นวางสินค้า มูลค่าสินค้ารวมกัน 120 บาท
ตำรวจได้สอบถามหญิงสาวคนนี้ก็ยอมรับสารภาพว่าขโมยสินค้าจริงเพราะความจนเงินไม่พอและเพิ่งทำเป็นครั้งแรกด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เหตุที่ขโมยครีมทาหน้าและยาทาเล็บเพราะอยากสวยเหมือนกับคนอื่น
เนื่องจากตนเพิ่งถูกสามีทิ้งไปมาราว 5 เดือน จากรูปร่างที่อ้วน รวมทั้งที่มือและเท้ายังถูกน้ำกัดเป็นแผลจากการทำงานเป็นลูกจ้างร้านทำเต้าฮู้ซึ่งมีรายได้แค่วันละ 200 บาท แถมยังมีหนี้สินอีก
แต่จากการเปิดเผยของพนักร้านสะดวกซื้อบอกว่า หญิงสาวคนนี้เข้ามาขโมยสินค้าในร้านเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมาได้ขโมยยาแก้ไอไป 1 ขวด
แต่จับไม่ทันออกจากร้านไปก่อนจึงได้บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดเอาไว้ และวันนี้พอหญิงสาวคนนี้เดินเข้ามาในร้านก็จำได้ทันที แต่ปล่อยให้เดินเลือกซื้อสินค้าและไปดูพฤติกรรมจากกล้องวงจรปิดก็พบว่าได้แอบขโมยของอีกจึงแจ้งตำรวจจับกุม
ทั้งนี้หลังจากจนมุมหญิงสาวคนนี้พยายามอ้อนวอนไม่ให้จับกุมอ้างยังมีลูกที่ต้องเลี้ยงดูอีก 2 คน และลูกกำลังไม่สบายจะมาซื้อยากลับไปให้ลูกด้วย ตำรวจจึงให้คุยกับเจ้าของร้านทางโทรศัพท์ซึ่งหญิงสาวคนนี้ก็อ้อนวอนขอโอกาสและสัญญาจะกลับตัวกลับใจ
ซึ่งทางเจ้าของร้านก็ใจดียอมให้โอกาสไม่ดำเนินคดีแต่ให้จ่ายค่าสินค้าทั้งสองชิ้นที่ขโมยมาและหลังเกิดเหตุทางตำรวจได้นำตัวหญิงสาวคนนี้ไปทำประวัติเอาไว้เป็นหลักฐานเพื่อไม่ให้ก่อเหตุลักทรัพย์อีก