
วันที่ 27 มิ.ย.64 ร.ต.อ.สมเกียรติ ลิไธสง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบรอยหยดเลือดบริเวณหลังบ้าน ม.4 บ.โศกนาก ต.แดงใหญ่ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ซึ่งเป็นบ้านของนายเป อายุ 72 ปี ที่หายตัวไปอย่างปริศนาตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 25 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา
ทั้งญาติและเพื่อนบ้านช่วยกันออกตามหาแต่ไม่มีใครเจอตัว อีกทั้งยังมีรอยหลุมที่เพิ่งขุดใหม่ๆ คล้ายกับฝังอะไรสักอย่าง จึงคาดว่าน่าจะมีเหตุฆาตกรรมอำพราง
จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.สุเอก ฉินธนทรัพย์ ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ รับทราบ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบยังบ้านที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านใหม่ไชยพจน์ และหน่วยกู้ภัยฯ
เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าวตามที่ได้รับแจ้ง ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวจึงได้ไปตรวจสอบบริเวณหลังบ้าน ก็พบก้านมะพร้าวแห้ง 2 อันวางอยู่บนหลุมที่มีการขุดและฝังกลบใหม่ๆ
จึงให้หน่วยกู้ภัยฯ ใช้จอบเขี่ยเอาดินออก ก็ต้องตกใจเมื่อพบร่างของนายเป อายุ 72 ปี เจ้าของบ้านที่หายตัวไป 3 วัน ถูกฝังอยู่ในหลุมดังกล่าว ในสภาพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขายาวตัวเดียว นอนคว่ำหน้าศีรษะหันไปทางทิศตะวันออก เท้าหันไปทางทิศตะวันตก และมีผ้าขาวม้าฝังอยู่ในหลุมดังกล่าวด้วย
ซึ่งศพมีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตและถูกฝังไว้ในหลุมไม่ต่ำกว่า 2 – 3 วัน
จากนั้นได้นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นจากหลุมซึ่งลึกประมาณ 1 เมตร ตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นพบมีบาดแผลถูกของมีคมฟันที่บริเวณกลางใบหน้าลักษณะกากบาท 2 แผล ศีรษะ 4 แผล แขน และลำตัวอีกหลายแผล ทั้งนี้ใบหูข้างขวาถูกเฉือนจนขาดเป็นที่น่าสยดสยองและสะเทือนใจแก่ชาวบ้านที่ไปดูศพ
ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุคือนายวิเชียรหรือตูบ อายุ 41 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต ผู้ต้องหาสารภาพว่าใช้มีดพร้ากระหน่ำฟันพ่อขณะนอนหลับช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 24 มิ.ย. โดยจำไม่ได้ว่าฟันไปกี่ครั้งกระทั่งพ่อนอนแน่นิ่งคิดว่าเสียชีวิตแล้ว จึงนำมีดไปล้างในห้องน้ำ
สักพักได้ยินเสียงพ่อร้องครวญครางจึงคว้ามีดเล่มเดิมไปฟันซ้ำอีกหลายครั้งจนขาดใจตาย แล้วก็นำมีดไปล้างเพื่อทำลายหลักฐาน แล้วใช้ผ้าปูที่นอนเช็ดเลือดตามพื้น และใช้มุ้งพันแผลที่ศรีษะเพื่อไม่ให้เลือดหยด
ก่อนจะลากศพไปทำการฝังอำพรางที่บริเวณหลังบ้านแล้วใช้ทางมะพร้าวปิดทับบนหลุมฝังศพด้วย เพื่อไม่ให้ใครสังเกตเห็น กระทั่งช่วงประมาณตี 5 ของวันที่ 25 มิ.ย. ก็เก็บเสื้อผ้าออกจากบ้าน
จากนั้นก็ขโมยเอาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนของพ่อไปจำนำที่ร้านค้าแห่งหนึ่งใน อ.พุทไธสง รวมกับบัตรของตัวเองด้วยได้เงิน 4,000 บาทเพื่อเป็นค่ารถหลบหนีไปกรุงเทพฯ
ด้านสาเหตุที่ฆ่าพ่อเนื่องจากแค้นสะสมที่พ่อชอบต่อว่าและพูดขัดขวางไม่ให้ทำในสิ่งที่อยากทำหลายครั้ง อย่างเช่นตนบอกว่าอยากเป็น ส.ส.พ่อก็ตอบกลับมาว่าให้รอวันตาย เหมือนกับพ่อไม่สนับสนุนส่งเสริมไม่อยากให้ตนเองได้ดีกว่า
ทั้งที่ความจริงแล้วพ่อต้องสนับสนุนส่งเสริมลูกตัวเอง จึงคิดว่าหากฆ่าพ่อแล้วคงไม่มีใครมาขัดขวาง แต่ก็รู้สึกผิดและอยากขอโทษพ่อ ซึ่งขณะพูดจบนายวิเชียร ก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษพ่อด้วย