
จากการณีมีผู้พบกองปูนซีเมนต์โบกปิดทับคล้ายรูปคน และมีกลิ่นเน่าเหม็น อยู่ในห้องนอน ภายในบ้านไม่ทราบเลขที่ หมู่ 9 ต.หนองปลาไหล อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี
พบศพผู้เสียชีวิต เพศชาย ลักษณะเน่าเปื่อย ทราบชื่อนามสกุลจริงภายหลัง คือนายไพโรจน์ อายุ 55 ปี ถูกปูนซีเมนต์โบกปิดทับอยู่ในห้องนอน ภายในบ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว
ต่อมาสืบสวนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้ คือ นายอานุภาพ อายุ29ปี(เป็นหลานผู้ตาย) เป็นผู้ก่อเหตุ จึงได้ติดตามตัว นายอานุภาพ และพบพยานหลักฐาน ที่ใช้ในการก่อเหตุและทรัพย์สินที่เชื่อว่ามาจากการกระทำความผิด จึงได้ทำการจับกุมตัว แจ้งข้อกล่าวหา
“ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และลักทรัพย์ของผู้อื่น”
และแจ้งสิทธิตามกฎหมาย พร้อมดำเนินการติดตามตรวจยึดของกลาง เช่นไม้ที่ใช้ก่อเหตุ,ถุงปูนซีเมนต์,สมุดบัญชีธนาคาร, สร้อยคอทองคำขนาด1บาทและรถยนต์ เบื้องต้นพบทรัพย์สินบางส่วนเป็นของผู้ตาย
จากการสอบสวนพบว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อประมาณเดือนพ.ย.63 นายอานุภาพ กับ นายไพโรจน์ (ผู้ตาย) ได้ร่วมกันทำงานรับเหมาก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ เดือน ม.ค.64
ต่อมาเมื่อประมาณเดือน มี.ค.64 นายอานุภาพ ได้ทวงถามเงินค่าจ้างส่วนที่ตนเองจะได้รับ กับนายไพโรจน์ เป็นเงินจำนวน 30,000 บาท 3 ครั้ง แต่นายไพโรจน์บ่ายเบี่ยง ไม่ให้เงินส่วนนี้ ต่อมาเดือน เม.ย.64 นายอานุภาพ ได้ทวงถามค่าจ้างอีก 4 ครั้ง แต่ผู้ตาย ก็บ่ายเบี่ยงเช่นเคย
ขณะเกิดเหตุ นายอานุภาพ ให้การยอมรับว่าเมื่อวันที่ 22 เม.ย.64 เวลาประมาณ06.30น. นายอานุภาพ ได้เข้าไปพบผู้ตายที่บ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว จากนั้นได้หยิบไม้ 1 ท่อน ซึ่งวางอยู่บริเวณหน้าบ้านดังกล่าวติดมือเข้าไปภายในบ้าน
จากนั้นตนเองได้เปิดประตูบ้านและประตูห้องนอนของผู้ตาย พบผู้ตายตื่นและลุกขึ้นนั่งบนที่นอน ตนเองจึงได้ใช้ไม้ท่อน ที่ถือมาตีเข้าไปบริเวณศีรษะ ของนายไพโรจน์1ครั้ง
เมื่อนายอานุภาพเห็นว่าผู้ตายสลบล้มลงบนที่นอนจึงได้ ตีซ้ำเข้าไปบริเวณลำคออีก1ครั้ง จนกระทั่งแน่ใจว่า นายไพโรจน์เสียชีวิตแล้ว จึงได้ล็อกห้องนอนและหลบหนีออกมา
หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 23 เม.ย.64 นายอานุภาพ ได้ไปซื้อปูนซีเมนต์จำนวน2ถุง และนำมาผสมที่บ้านที่เกิดเหตุ เพื่อปิดทับอำพรางศพนายไพโรจน์ จากนั้นได้กลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ
จนกระทั่งวันที่ 7 มิ.ย.64 นายอานุภาพ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุม ซึ่งผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพตลอด ทุกข้อกล่าวหาโดยมีมูลเหตุจูงใจคือ
1.ผู้ต้องหาประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้ตาย เนื่องจากต้องนำเงินไปชำระหนี้หลังจัดงานแต่ง(แต่ง 18 เม.ย. 64)
2.ผู้ตายค้างค่าแรงจากการรับเหมาก่อสร้างร่วมกัน เมื่อติดตามทวงถามผู้ตายไม่จ่ายค่าแรงและบ่ายเบี่ยง
3.ความแค้นส่วนตัวเนื่องจากผู้ตายมักใช้คำพูดรุนแรงกับผู้ต้องหา