
วันที่ 16 พ.ค. 64 ได้เกิดเหตุฟ้าผ่าบริเวณไร่มันสำปะหลัง ด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้านโนนสวรรค์ ต.เขาคอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วานนี้ (15 พ.ค.)
ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย คือ น.ส.จุรีย์รัตน์ พรมประโคน อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของไร่มันเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย คือ นายสุริยัน สมใจ อายุ 40 สามีผู้ตาย ลูกสาววัย 6 ขวบ และญาติที่ไปรับจ้างปลูกปลูกมันด้วย
ส่วน ด.ช.วัย 2 ขวบ ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กของผู้ตาย รอดปาฏิหาริย์ไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ฟ้าผ่าดังกล่าว
ซึ่งล่าสุดญาติได้นำศพ น.ส.จุรีย์รัตน์ ผู้ที่ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านใน ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว ญาติพี่น้องและที่น่าสลดใจคือ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 2 ขวบ ลูกชายคนเล็กของผู้ตายที่รอดชีวิต ซึ่งยังไร้เดียงสาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่ตัวเองเสียชีวิต
จากการสอบถามนายวิรัตน์ บัวโฮม กำนันตำบลเขาคอก บอกว่าช่วงเย็นวานนี้ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน ว่ามีเหตุฟ้าผ่าคนเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนอยู่ที่บริเวณไร่มันสำปะหลัง
จึงได้ประสานหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน และกู้ชีพ กู้ภัยฯ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วน
ด้านนางสมเกียรติ อายุ 40 ปี พี่สาวผู้ตาย บอกว่าจากการสอบถามจากป้าข้างบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์และได้รับบาดเจ็บเล่าให้ฟังว่าวันเกิดเหตุผู้ตาย พร้อมสามี และลูก 2 คน รวมทั้งป้าข้างบ้านไปปลูกมันสำปะหลัง
แต่ช่วงเกิดเหตุฝนเริ่มตกปรอยๆ ทั้งหมดจึงพากันไปนั่งหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างไร่มัน ไม่นานก็เกิดฟ้าผ่าดังเปรี้ยงอย่างแรงบริเวณที่พวกเขานั่งหลบฝนอยู่ จนทำให้ น.ส.สุรีย์ตน์ น้องสาวของตนเองเสียชีวิตคาที่
ส่วนสามี ลูกสาวและป้าที่ไปรับจ้างปลูกมันสลบ แต่ลูกชายคนเล็ก 2 ขวบไม่เป็นอะไร จากนั้นพอป้าข้างบ้านที่สลบรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา ตอนแรกก็กะจะโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ
แต่เห็นฝนยังตกและฟ้าก็ร้องไม่หยุดกลัวฟ้าจะผ่าซ้ำจึงตัดสินใจปิดโทรศัพท์เดินเข้าไปในหมู่บ้านระยะทางไกลเป็นกิโล เพื่อไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน
แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิต น.ส.สุรีย์รัตน์ ไว้ได้ ส่วนผู้เป็นสามี ลูกสาว และป้าข้างบ้านบาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.ประโคนชัย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าน่าจะเกิดจากแหวนทองที่ผู้ตายสวมใส่ น่าจะเป็นฉนวนหรือสื่อนำที่ทำให้เกิดฟ้าผ่าหรืออาจจะผ่าลงต้นไม้แต่บังเอิญผู้ตายและผู้บาดเจ็บไปอยู่ตรงต้นไม้พอดีก็เป็นได้
ก็อยากฝากเป็นอุทาหรณ์กับคนที่จะออกไปทำไร่ทำสวนกลางแจ้งไม่ควรจะสวมใส่เครื่องประดับ หรือหลบใต้ต้นไม้อาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นได้