
วันที่ 27 มีนาคม 2564 พ.ต.อ. ชยันต์ ปัญญาเครือ ผกก.สภ.พาน จังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ ติ๊บแปง สารวัตรเวรสภ.พาน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายธงชัย อายุ 65 ปี บ้านหมู่ที่ 6 บ้านสันไม้ฮาม ต.แม่เย็น อ.พาน จ.เชียงราย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณสระน้ำหลังบ้านสันไม้ฮาม ต.แม่เย็น อ.พาน จ.เชียงราย
ภายก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 06.50 น. วันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมามีผู้พบนายนิวัติ อายุ 50 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ภายในสระ จึงแจ้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ ตอนแรกคิดว่าผู้ตายถูกไฟฟ้าช็อตขณะหาปลาอยู่ แต่เมื่อกู้ภัยนำศพขึ้นมาจากน้ำจึงพบว่ามีรอยถูกยิงที่หน้าออก
จึงประสานตำรวจวิทยาการเชียงรายมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า นายนิวัติ ผู้ตายถูกยิงที่ราวนมด้านซ้าย เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ไม่มีร่องรอยการต่อสู้สันนิษฐานว่าขณะผู้ตายลงไปปล่อยปลาที่จับได้อยู่ในน้ำ ได้มีคนร้ายเดินมาที่ริมน้ำแล้วยิงจากริมตลิ่งห่างจากที่ผู้ตายยืน 2-3 เมตรด้วยปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาดลูกปลาย 9 เม็ด
จากการสอบสวนนางรัชดา อายุ 49 ปี ภรรยาผู้ตาย ทราบว่านายนิวัติ สามีเป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและเคยถูกตัดสินจำคุกคดีครอบครองยาเสพติดและอาวุธปืน พึ่งออกจากเรือนจำกลับมาอยู่บ้านมาประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ประกอบอาชีพหาปลาและรับจ้างพ่นยาในหมู่บ้าน
ตำรวจจึงได้ตรวจสอบข้อความในโทรศัพท์ของผู้ตาย ปรากฏว่ามีข้อความในลักษณะพิมพ์แล้วลบและมีการถามว่าผู้ตายอยู่ไหน จากนายธงชัย ผู้ต้องหาซึ่งเป็นศักดิ์เป็นพี่เขยของผู้ตาย
ตำรวจจึงเรียกนายธงชัย มาสอบสวนปากคำ ต่อมาได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่านายนิวัติจริงเพราะผู้ตายเคยถูกจำคุกคดียาเสพติด ผู้ตายจึงเข้าใจว่านายธงชัย พี่เขยเป็นคนแจ้งตำรวจจึง พูดจาไม่ดีใส่แล้วจะขู่ฆ่าล้างโคตร นายธงชัยจึงตัดสินใจลงมือฆ่าผู้ตายก่อน
จากนั้นนายธงชัยได้นำไปตรวจค้นอาวุธปืน ที่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านสันไม้ฮาม ต.แม่เย็น ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร ภายหลังจากยิงเสร็จนายธงชัย ได้นำปืนลูกซองยาวที่ใช้ก่อเหตุมาเก็บไว้ที่หัวนอนภายในบ้านตนเอง
ในการทำแผนนายธงชัยผู้ต้องหามาที่เกิดเหตุโดยชี้ว่าได้ไปดักรอผู้ตายที่เล้าไก่หลังบ้านผู้ตายประมาณครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งนายนิวัติผู้ตายกลับจากหาปลามาลงไปล้างตัวภายในสระ สบโอกาสจึงเรียกนายนิวัติหันหลังกลับมา แล้วใช้ปืนยิงจากใต้ต้นลำไยเข้าไปที่หน้าอกนายธงชัยหนึ่งนัดเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แล้วจึงกลับไปที่บ้านของตนก่อน
สาเหตุที่ลงมือทำไปเพราะ เคยถูกผู้ตายข่มเหงน้ำใจจะฆ่าล้างโคตร จึงตัดสินใจเพียงลำพังก่อเหตุในครั้งนี้ ตำรวจจึงตั้งข้อหาเบื้องต้นเอาไว้ก่อน 2 ข้อหา คือ "ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และข้อหาฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะฯ" ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป