Sanook77

แค้นลูกยิงพ่อ! วัยรุ่นชกต่อยกับพ่อของคู่อริ สู้ไม่ไหวชักปืนยิงเสียชีวิต

พัทลุงข่าว
//s.isanook.com/ss/0/ud/3/15972/239289.jpg

วัยรุ่นชกต่อยกับพ่อของคู่อริ สู้ไม่ไหวขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เอาปืนลูกซองกลับมาบุกยิงพ่อคู่อริเสียชีวิตคาบ้าน ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวคนร้ายแล้ว  ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า  วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564   ร.ต.อ.สุรันต์  เบื้องบน  รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลำปำ  พ.ต.ต.ขจรจักษ์  ชูแป้น  สว.สภ.ลำปำ  พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง  เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุงการกุศล และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพัทลุง  รุดตรวจสอบเหตุยิงกันเสียชีวิต  1  ศพ 

โดยเหตุเกิดในบ้านชั้นเดียว ม.3 ตำบลลำปำ  อำเภอเมืองพัทลุง  ในที่เกิดเหตุบริเวณประตูเข้าบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพ  นายจารึก อายุ  39 ปี  เจ้าของบ้านนอนเสียชีวิตในลักษณะหงายหน้า  สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่บริเวณใต้ราวนามซ้าย  1  แผล 

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า  ก่อนเกิดเหตุได้มีวัยรุ่นที่เป็นคู่อริกับบุตรชายของผู้เสียชีวิต  ได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวปสีแดง-ดำ มีเรื่องกับบุตรชายที่อยู่ในบ้าน  ผู้เสียชีวิตเห็นท่าไม่ดีจึงปิดประตูบ้านไม่ให้ลูกชายออกมาจากบ้านหวั่นเกิดอันตราย 

จนกระทั่งผู้เสียชีวิตได้มีปากเสียงกับคู่อริของลูกชาย และเกิดชกต่อยกันขึ้น  วัยรุ่นคนดังกล่าวเสียท่าไม่สามารถต่อสู้ได้  จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับออกไปที่บ้านของตนเอง

ต่อมาประมาณ  30  นาที  วันรุ่นคนดังกล่าวก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมายังบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้งและใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่เสียชีวิตจำนวน 1 นัด  จากนั้นก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป 

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำปำ ทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนกำลังติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป คาดคนร้ายในคดีดังกล่าวยังคงหนีไปไม่ไกลจากบ้านพักในพื้นที่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวภาคใต้พัทลุง

เนื้อหาโดย

Jaroenchai C.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

นายกฯเศรษฐา เป็นห่วงท่องเที่ยวและงานโมโตจีพี หลัง กองทุนพัฒนากีฬาฯ ตัดงบ 150 ล้านบาท
กรุงเทพมหานครข่าว

นายกฯเศรษฐา เป็นห่วงท่องเที่ยวและงานโมโตจีพี หลัง กองทุนพัฒนากีฬาฯ ตัดงบ 150 ล้านบาท

โดยปางปราบมาร/
เปิดแล้วงานมหกรรมเจ้าพระยาป่าสัก Up Expo 2023
สระบุรีข่าว
โดยHiranyawat A./
โหลดเพิ่มเติม