
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 พันตำรวจเอก พิชัยภูษิส จารุพงศ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านไผ่ รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันอยู่กลางทุ่งนาบ้านหนองแวงไร่หมู่ที่ 4 อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น
จึงพร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ ออกไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ กระสุนเจาะเข้าที่บริเวณใกล้หูลูกปืนฝังใน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านไผ่ ก่อนจะเสียชีวิตขณะนำตัวส่งไปรักษา
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังปิดล้อม เพราะว่าคาดว่าผู้ก่อเหตุไม่น่าจะไปได้ไกล เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังปิดล้อมเอาไว้ใช้เวลาประมาณไม่ถึง 1 ชั่วโมง จึงสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้
ทราบชื่อต่อมาผคือนายอรุณ อายุ 47 ปี อดีตเป็น รปภ.อยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ได้ลาออกจากงานมาอยู่พักอาศัยกับพี่ชาย และอยู่ด้วยกันกับผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ในครอบครัวเดียวกัน โดยผู้เสียชีวิตนั้นมีศักดิ์เป็นหลานเขย ทราบชื่อต่อมา คือนายสุพจน์ ชมทอง อายุ 36 ปี
สอบถามนางบุปผา อายุ 53 ปี ทราบว่าผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตน้องเขย ชอบระหองระแหงกัน ส่วนสาเหตุก็มาจากเรื่องครอบครัวอยู่ด้วยกันไม่ถูกกัน ผู้ตายชอบบ่นว่าผู้ก่อเหตุไม่ยอมทำงานทำการอะไรเลย
ทำให้ผู้ก่อเหตุได้รับความกดดันมาตลอดจนทนไม่ไหว จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์จ่อยิงที่ศีรษะของนายสุพจน์ ซึ่งเป็นหลานเขย ในขณะที่ผู้ตายและภรรยากำลังรดน้ำผักอยู่โดยที่ไม่รีรอ
ขณะที่นายสุพจน์ ผู้ตาย ไม่ทันระวังว่าตัวเองจะถูกยิง และกำลังยืนรดน้ำอยู่กับภรรยา ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ได้ยินแต่เสียงร้องของหลานสาวจึงวิ่งไปดู พบนายสุพจน์ นอนจมกองเลือดอยู่จึงแจ้งให้รถโรงพยาบาลมารับและแจ้งตำรวจ แต่ก็นายสุพจน์เสียชีวิตในระหว่างทาง
ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องครอบครัวนั้นเองที่ไม่ลงรอยกัน