
วันที่ 26 ม.ค. ร.ต.อ.สังเวียน เอี่ยมโซ้ รอง สว.(สอบสวน) สภ.แก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านพักหมู่ 3 บ้านน้ำริน ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก
หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลวังทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน
ในที่เกิดเหตุมีชาวบ้านยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก ภายในบ้านหลังเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น บริเวณชั้นล่างพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย มีบาดแผลถูกของมีคมฟันเข้าที่ลำคอเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลนองพื้น เป็นภาพสยดสยอง ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายวิชิต อายุ 67 ปี
ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่หลังบ้าน ทราบชื่อคือ นายหวาน อายุ 74 ปี ซึ่งยังให้การวกวนอยู่ระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สอบถาม นางลำจวน อายุ 68 ปี เจ้าของบ้าน ให้การว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นน้องชายของตัวเอง ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นสามี ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่เขยของคนตาย โดยทั้งคู่มักจะมีปากเสียงทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ เพราะชอบไปขุดเรื่องเก่าๆ มาทะเลาะกัน
เมื่อก่อนชอบดื่มเหล้ากันทั้งคู่ แต่เลิกดื่มเหล้ากันมานานหลายปีแล้วเพราะอายุมาก ตนก็เคยห้ามปรามตลอดว่าญาติกันอย่าทะเลาะกันเลย ที่ผ่านมาก็เคยเมาแล้วลงไม้ลงมือกันบ้าง แต่ไม่เคยหนักถึงขั้นบาดเจ็บ
แต่วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตนเองไปกินก๋วยเตี๋ยวแล้วกลับเข้าบ้านก็มาพบภาพน้องชายถูกทำร้ายนอนจมกองเลือดและชีวิตอยู่ในบ้าน เมื่อสอบถามสามีก็ไม่ได้พูดอะไรแต่เดินหนีไปทางหลังบ้าน จึงไปแจ้งกับผู้ใหญ่บ้านและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายหวาน มือมีดฆ่าน้องเมีย ที่นั่งรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ก็ได้พูดสั้นๆ ว่า นายวิชิต น้องเมีย มาบีบคอตนก่อน วันนี้ก็ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน แต่จู่ๆ น้องเมียก็ได้เดินมาบีบคอตนเลย
พอตนดิ้นหลุดได้แล้วตนก็เดินไปทางหลังบ้าน เอามีดหวดมาฟันที่คอไป 2 ที พอฟันเสร็จตนก็ไม่ได้หนีไปไหน รอมอบตัวอยู่ตรงนี้ ปกติตนกับน้องเมียก็จะทะเลาะกันบ่อยเป็นประจำ แต่วันนี้ถูกบีบคอจึงโมโหลงมือก่อเหตุ
ขณะที่ นายฝ่าย คำเขียว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านน้ำริน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนก็ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า ที่บ้านหลังเกิดเหตุมักจะมีเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำระหว่าง นายหวาน พี่เขย กับ นายวิชิต น้องเมีย เพราะเวลากินเหล้าด้วยกันจะมีปากเสียงทะเลาะกันตลอดจึงเข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ย
แต่ระยะหลังทั้งคู่ก็เลิกดื่มเหล้า แต่ก็ยังมีปากเสียงกันอยู่บ้าง ซึ่งนายวิชิตพิการขาเดินไม่ได้ ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเป็นเรื่องปกติของทั้งคู่ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน และจะแยกกันอาศัยอยู่บ้านคนละหลัง แต่ปลูกอยู่ติดๆ กัน ในรั้วเดียวกัน
วันนี้ตนก็ไม่รู้ว่าสาเหตุที่ทะเลาะกันเกิดจากเรื่องอะไร ไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขึ้นลงไม้ลงมือกันถึงกับเสียชีวิต ตนเดินทางมาตรวจสอบก็พบร่างนายวิชิตนอนจมกองเลือดแล้ว
ส่วนนายหวาน ผู้ก่อเหตุ ก็ให้รับสารภาพกับตำรวจว่าลงมือทำร้ายน้องเมียจริง แต่ก็ยังให้การวกวนไปมาว่าผู้ตายบีบคอตนเองก่อน จึงโมโหเดินไปคว้ามีดหวดมาฟันที่คอจนน้องเขยเสียชีวิตในที่สุด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบสวนหาสาเหตุและมูลเหตุแรงจูงใจอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างส่งผ่าชันสูตรพลิกศพ ก่อนมอบให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนา ส่วนผู้ก่อเหตุจะได้ควบคุมตัวไปสอบสวนและแจ้งข้อหาฆ่าคนตาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป