
เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2564 พลตำรวจตรีอนุชา อ่วมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย พ.ต.อ.วุฒิชัย กลิ่นสิงห์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสบเมย นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสบเมย ร่วมกับ ทางปกครองอำเภอแม่สะเรียง และอำเภอสบเมย และ สถานีตำรวจภูธรท่าตาฝั่ง
เข้าปิดล้อมบ้าน หมู่ 2 ต.แม่คะตวน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อให้ผู้ต้องหา นายบุญช่วย อายุ 63 ปี ผู้ต้องหา เข้ารับการมอบตัวหลังก่อเหตุฆ่าภรรยาตัวเองเสียชีวิต จากเหตุหึงหวง
โดยทางเจ้าหน้าที่และเพื่อนสนิท ตลอดจนญาติพี่น้องพยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมผู้ต้องหาวัย 63 ปี ที่ทำร้ายภรรยาจนเสียชีวิต นานกว่า 2 ชม.ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา
จนในที่สุดต้องใช้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ใช้กำลังพังประตูบ้านเข้าไป พบว่าผู้ต้องหาถืออาวุธมีดอยู่ เตรียมที่จะหลบหนี จึงเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสบเมย ดำเนินคดีต่อไป
ต่อมา พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ แถลงผลการจับกุมคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยเหตุเกิด เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 20.00 น. ขณะที่นายบุญช่วย อายุ 63 ปี (ผู้ต้องหา) อยู่กับ นางออน อายุ 53 ปี (ภรรยา) ได้ทะเลาะมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง
จนทำให้ผู้ต้องหาโมโหไม่สามารถควบคุมสติได้ ใช้ก้อนหินไปทำร้ายภรรยาบริเวณศีรษะและใบหน้าจนเป็นเหตุให้ นางออน ผู้เป็นภรรยา ถึงแก่ความตาย ในที่เกิดเหตุ จากนั้นผู้ต้องหาได้หลบหนี
ทางตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงได้ประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสบเมย เจ้าของพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรท่าตาฝั่ง เขตพื้นที่ติดต่อ ปลัดอำเภอ ฝ่ายปกครองอำเภอสบเมย และกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ได้วางแผนจับกุม จนชุดสืบสวน สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอยู่ที่ บ้าน หมู่ที่ 2 ต.แม่คะตวน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ในละแวกใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ
จึงได้นำกำลัง เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าปิดล้อมเกลี่ยกล่อมผู้ต้องหาอยู่นานกว่า 2 ชม. จนในที่สุดต้องใช้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ใช้กำลังพังประตูบ้านเข้าไป พบว่าผู้ต้องหาถืออาวุธมีดอยู่ เตรียมที่จะหลบหนี จึงเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสบเมย ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.อนุชา กล่าวปิดท้ายว่า สาเหตุคาดว่า เกิดการทะเลาะวิวาท หึงหวง จึงถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับการคิดหรือการกระทำใดๆ ขอให้ไตร่ตรองให้ดี อย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
ปกติแล้วในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้น้อยมาก คนในพื้นที่ส่วนใหญ่มีลักษณะนิสัยรักความสงบ การที่มีเหตุเกิดขึ้นแบบนี้ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ยุทธวิธีเข้าจับกุม