Sanook77

เซียนพระคล้ายเมา ชนศาลาผู้โดยสารข้างทางพังยับ ดับ 1 เจ็บ 2

สุพรรณบุรีข่าว
//s.isanook.com/ss/0/ud/3/15314/5.jpg

วันที่ 19 ม.ค. 64 เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ต.ณรงค์กรณ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา สารวัตรสอบสวน สภ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนศาลาข้างทางมีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บที่ถนนสายบางแม่หม้าย-คอวัง หมู่ 4 ต.บ้านแหลม

ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.บางปลาม้า และสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิสีขาว พลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้าถูกศาลาที่พักผู้โดยสารข้างทางทับอยู่ด้านบนสภาพพังเสียหายยับเยินทั้งรถทั้งศาลภายในรถมีเสียชีวิตและบาดเจ็บติดคาอยู่

หลังเกิดเหตุนายจตุพร อุ่นวิจิตร สจ.อ.บางปลาม้า และนายธเนศ  มั่นคงดี ผอ.รพ.สต.บ้านแหลม ได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมสั่งการให้นำรถแบ็คโฮ และรกเครนมายกหลังคาศาลาซึ่งเป็นโครงเหล็กมุงด้วยแมสทัลชีสออกจากรถกระบะ

ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงจึงสามารถเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตออกจากซากรถได้ก่อนทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำส่ง รพ.บางปลาม้า

ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายอดิศร ญาณสิริมงคล อายุ 56 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมี 2 ราย คือนายเดือน น้ำใจดี อายุ 60 ปีและนายวิโรจน์ มุกดาหาร อายุ 40 ปีมีแผลถลอกตามร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบไม้กระดานปูพื้นศาลากล่องใส่พระเครื่องและพระเครื่องกระจายเกลื่อนเจ้าหน้าที่จึงช่วยกับเก็บเพื่อความปลอดภัย

จากการสอบสวนทราบว่ารถกระบะคันดังกล่าวเป็นของนายวิโรจน์ มีอาชีพเป็นเซียนพระรับซื้อขายพระอยู่ที่ริมถนนหน้าวัดกลาง อ.บางปลาม้า หลังจากไวรัสโควิดระบาดได้หยุดตั้งแผง

กระทั่งก่อนเกิดเหตุได้ไปตั้งดื่มสุราที่บ้านเพื่อโดยมีนายเดือน และนายอดิศร  ผู้เสียชีวิตไปด้วยหลังจากดื่มกันจนได้ที่จึงพากันกลับบ้านถึงที่เกิดเหตุก่อนถึงบ้านรถเกิดเสียหลักพุ่งชนศาลาที่พักผู้โดยสารริมถนนจนพังเสียหายเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

จากการสอบสวนนายวิโรจน์ ให้การว่าตนมีอาชีพรับซื้อขายพระเครื่องช่วงนี้โควิด 19กำลังระบาดจึงไม่ได้ตั้งแผงขายพระ กระทั่งก่อนเกิดเหตุพากันไปเที่ยวบ้านเพื่อนและมีดื่มสังสรรค์กันก่อนกลับบ้านโดยมีนายอดิศร ผู้เสียชีวิตเป็นคนขับนายเดือน นั่งคู่เบาะหน้าส่วนตนนั่งในแค็ปหลัง

ส่วนเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไรนั้นตนไม่ทราบเพราะตนหลับแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและญาติผู้เสียชีวิตไม่เชื่อคำให้การของวิโรจน์ จึงได้ให้เป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ แต่เหมือนนายวิโรจน์ ไม่เต็มใจเป่า

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ทางโรงพยาบาลตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะสอบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดเพื่อหาตัวคนขับที่แท้จริงในการดำเนินคดีต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวภาคกลางสุพรรณบุรี

เนื้อหาโดย

Mongkol S.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

นายกฯเศรษฐา เป็นห่วงท่องเที่ยวและงานโมโตจีพี หลัง กองทุนพัฒนากีฬาฯ ตัดงบ 150 ล้านบาท
กรุงเทพมหานครข่าว

นายกฯเศรษฐา เป็นห่วงท่องเที่ยวและงานโมโตจีพี หลัง กองทุนพัฒนากีฬาฯ ตัดงบ 150 ล้านบาท

โดยปางปราบมาร/
โหลดเพิ่มเติม