
วันที่ 11 ม.ค.64 นายทอง (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ชาว ต.เมืองฝ้าย อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ได้พา ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ซึ่งเป็นหลานสาว ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองหงส์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.ยงยุทธ ไผ่ล้อมวรกุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองหงส์
ให้เอาผิดกับนายมณีหรือโขน อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) แห่งหนึ่งใน อ.หนองหงส์ โดยกล่าวหาว่านายมณี ได้ล่อลวง ด.ญ.เอ หลานสาวไปล่วงละเมิดทางเพศในป่าข้างบ้าน เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ (2 ม.ค.64) ที่ผ่านมา
โดยนายทอง ซึ่งเป็นลุงยืนยันว่าเห็นกับตาของตัวเองแต่ตอนที่ไม่แจ้งความเพราะไม่อยากให้หลานอับอายและก็ไม่รู้ว่าจะต้องเดินเรื่องอะไรยังไงบ้าง
จากการสอบถามนายทอง บอกว่าเคยได้ยินคนเล่าให้ฟังหลายครั้งว่า อบต.โขน มีความสัมพันธ์กับหลานสาวของตัวเอง ตอนแรกก็ยังไม่เชื่อแต่ก็พยายามเค้นถามหลาน แต่หลานก็ไม่ยอมบอกอะไรเอาแต่เงียบ จึงพยายามสังเกตและตักเตือนหลานเพราะตนเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กหลังจากพ่อแม่แยกทางกันก็รักเหมือนลูก
กระทั่งวันที่ 2 ม.ค.64 ไม่เห็นหลานสาวอยู่บ้านก็เริ่มเอะใจจึงไปตามหากระทั่งไปเห็น อบต.โขนกำลังกระทำชำเราหลานสาวอยู่ในป่าข้างบ้าน ก็ตกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จึงไปต่อว่า อบต.ว่าทำไมถึงทำแบบนี้
หลังจากนั้นวันที่เกิดเหตุ อบต.ก็ให้คนเอาเงินมาให้ 1 แสนบาทเพื่อให้จบ ยอมรับว่าตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกและไม่กล้ามาแจ้งความเพราะไม่อยากให้หลานอับอาย จึงบอกให้นายมณี เลิกพฤติกรรมดังกล่าวและห้ามหลานไม่ให้ติดต่อหรือไปมาหาสู่กันอีก
แต่หลังเกิดเหตุนายมณี ก็ยังไม่ยอมหยุดจึงตัดสินใจพาหลานเข้าแจ้งความให้เอาผิดตามกฎหมายกับนายมณี ส.อบต. เพราะไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับเด็กคนอื่นอีก
ยอมรับเสียใจมากไม่คิดว่าคนที่อายุมากขนาดนี้และมีตำแหน่งเป็นถึง ส.อบต.เป็นผู้นำชุมชน จะทำตัวแบบนี้ยืนยันว่าจะเอาเรื่องตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามนายมณี หรือ อบต.โขน ที่ถูกกล่าวหา ก็ยืดอกยอมรับว่าได้กระทำชำเรา ด.ญ.เอ จริง แต่ไม่ได้เป็นการบังคับก็เป็นการสมยอมทั้งสองฝ่าย ก็ยอมรับว่ามีความผูกพันกับเด็กจนเกิดความพลั้งเผลอไป แต่ก็ยอมรับผิดเพราะอีกฝ่ายเป็นเด็กก็ไม่ได้ปฏิเสธ
พร้อมเดินทางไปพบตำรวจและยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำและพร้อมที่จะยื่นลาออกจาก ส.อบต.ด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากให้กระทบต่อภาพลักษณ์หรือทำให้เสื่อมเสีย
ส่วนเรื่องคดีก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ก็ขอโทษเด็กผู้เสียหายและครอบครัวของเด็กด้วยที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ยืนยันว่าไม่ได้บังคับขืนใจเป็นการสมยอมกันทั้งสองฝ่าย
ขณะที่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีก็ได้พา ด.ญ.เอ ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลหนองหงส์ และทำการสอบปากคำเบื้องต้น
จากนั้นก็จะได้เรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานก่อนจะแจ้งข้อหาตามขั้นตอน