วันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีที่ เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชายหนุ่มวัย 20 ปี ได้บุกเข้าไปมุดมุ้งลักพาตัวเด็กหญิงวัย 7 ปี รายหนึ่งที่นอนอยู่กับยายทวดที่ภายในบ้าน แล้วอุ้มหายไปในป่าอ้อย เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.น้ำร้อน อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเชียรบุรีร่วมกับชาวบ้าน ออกติดตามไล่ล่า โดยกระจายกำลังกันปิดล้อมป่าอ้อย ที่อยู่ใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อระดมค้นหา พร้อมทั้งช่วยกันส่งเสียงตะโกนเรียกเด็กหญิงที่เคราะห์ร้ายอยู่ตลอดเวลา
จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านที่ออกค้นหา จึงได้ยินเสียงเด็กหญิงวัย 7 ปี ร้องขอความช่วยเหลือ อยู่ที่บริเวณภายในป่าอ้อย ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ ประมาณเพียงกว่า 100 เมตร
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินตามเสียงร้องของเด็กหญิงวัย 7 ปี เข้าไป จนพบเด็กหญิงคนดังกล่าวถูกปล่อยตัวทิ้งไว้ ในสภาพถูกถอดเสื้อผ้าออกหมด ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุได้พยายามหลบหนีออกจากป่า แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านได้ช่วยกันล้อมจับตัวไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาว่าคือ นายสมพงค์ หรือเข้ม อายุ 20 ปี อยู่บ้านหมู่ 5 ต.น้ำร้อน อ.วิเชียรบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิเชียรบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป จากการสอบสวนของ พ.ต.ต.นิติพัฒน์ เอกบาง พนักงานสอบสวน สภ.วิเชียรบุรี
ในเบื้องต้น นายสมพงค์ หรือเข้ม ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับสารภาพว่า สาเหตุที่ทำไปเป็นเพราะเมาเหล้าขาว และเสพยาบ้า เจ้าหน้าตำรวจจึงตั้งข้อหา บุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และข้อหาลักพาตัว ส่วนข้อหาข่มขืนกระทำชำเรานั้น ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากแพทย์เพื่อยืนยันอีกครั้ง ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเด็กหญิงเคราะห์ร้ายประมาณ 200-300 เมตร พบเพียงนายอำนาจ อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของนายสมพงศ์ ส่วนนางสาวลัดดา อายุ 52 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นยายของนายสมพงศ์ ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางไปเยี่ยมนายสมพงศ์ ที่ถูกคุมขังอยู่ที่ สภ.วิเชียรบุรี
โดยในช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดวิเชียรบุรี โดย นายอำนาจ พี่ชายของนายสมพงศ์ ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ในคืนเกิดเหตุ ประมาณ 19.00 น. ตนและน้องชายได้ไปนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่บ้านตาด้วยกัน 3 คน และประมาณ 21.00 น. น้องชายได้กลับมาบ้านก่อน จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านมาบอกว่า นายสมพงศ์น้องชายตน ได้ก่อเหตุอุ้มเด็กหญิงเอ(นามสมมุติ)อายุ 7 ปี ไปทำอนาจารที่ในป่าอ้อยใกล้บ้านของเด็กหญิงเอ
ตอนแรกที่เพื่อนบ้านมาบอก ตนไม่เชื่อว่าน้องชายจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ ตนจึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านออกค้นหา จนกระทั่งพบเด็กหญิงเอ อยู่ในสภาพเปลือยกาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับตัวคนร้ายได้ ซึ่งเป็นนายสมพงศ์ น้องชายของตนเองจริงๆ
ด้าน ยายทวดเด็กหญิงเคราะห์ร้าย เล่าว่า หลังเกิดเหตุ เมื่อคืนนี้ตนนอนไม่หลับเลย ใจยังครุ่นคิดวิตกกังวลเรื่องคนร้ายมาอุ้มเอาเหลนสาวไป ตั้งแต่ตอนไหน และรู้สึกหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าจิตใจทำด้วยอะไร ถึงทำกับเด็กตัวแค่นี้ได้
ซึ่งตนก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อย่าให้ได้ออกมา ถ้าออกมาก็จะมาทำกับคนอื่นอีก ส่วนตัวของเหลนสาวเอง ในช่วงเวลานอนหลับ ก็พบว่ามีอาการละเมอ เรียกหาแต่ยายทวดให้ช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา
ส่วน ตาทวดเด็กหญิงเคราะห์ร้าย กล่าวว่า ตนรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหลนสาว คนอื่นกินเหล้าเมาก็ไม่เห็นจะมีพฤติกรรมแบบนี้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเหมือนกัน โดยขณะที่ตามหาเหลนสาวอยู่นั้นคิดถึงแต่เรื่องข่าวน้องชมพู่อยู่ตลอดเวลา หวั่นเกรงว่าเหลนสาวจะเป็นเหมือนน้องชมพู่ เตรียมย้ายให้ไปอยู่กับแม่ที่กรุงเทพฯ
