
วันที่ 15 ตุลาคม 2563 ร.ต.ท.ทศพล กระพี้แดง รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุชายถูกฟันด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณหน้าลิฟท์ ชั้น 5 ตึก 9 คอนโดแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 1 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณชั้นล่างหน้าลิฟท์ชั้นล่าง พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือนายสมชาย อายุ 39 ปี มีบาดแผลถูกฟันด้วยอาวุธมีดที่ศีรษะ 2 แผล ไหล่ซ้าย 1 แผล และที่กลางหลัง 1 แผล เลือดไหลออกมาจำนวนมาก
อาสาสมัครมูลนิธิให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนประสานรถกู้ชีพมานำส่งรักษาที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่องรอยการต่อสู้ และกองเลือดอยู่ที่พื้น รวมทั้งเศษเส้นผมเป็นกระจุก ที่บริเวณหน้าลิฟท์ชั้น 5 และมีหยดเลือดลงมาตามบันไดจนถึงชั้นล่าง
ด้านนางอิศริยา อายุ 42 ปี ภรรยาผู้บาดเจ็บ ได้เล่าว่าก่อนเกิดเหตุนายสมชาย ผู้บาดเจ็บซึ่งมีอาชีพขับรถบรรทุกหัวลากได้กลับมาที่ห้องพักซึ่งอยู่ชั้น 5 อาคารดังกล่าวและนั่งดื่มเหล้าอยู่ในห้องได้พักใหญ่ ก่อนที่จะบอกตนว่าจะออกไปดื่มเหล้าต่อกับเพื่อน
หลังจากที่เดินออกมาจากห้องมาได้พักพักใหญ่ ตนก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของผู้บาดเจ็บ จึงได้รีบเปิดประตูห้องวิ่งออกมาดู พบเพียงกองเลือดอยู่ที่หน้าลิฟท์แต่ไม่เห็นสามี จึงรีบกดลิฟท์ลงมาดูที่ชั้นล่างได้พบร่างของร่างของสามีล้มฟุบอยู่หน้าลิฟท์ในสภาพเลือดแดงฉานท่วมตัวและมีบาดแผลถูกฟันหลายแห่ง จึงรีบโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
ขณะที่นายสมชาย ผู้บาดเจ็บ ได้เล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนเดินออกมาจากห้องมารอลิฟท์ที่ชั้น 5 เพื่อจะลงไปชั้นล่าง ระหว่างนั้นได้พบผู้ก่อเหตุเป็นชายยืนอยู่ ตนจำผิดคิดว่าเป็นเพื่อนจึงเข้าไปทัก
แต่ชายคนดังกล่าวกลับใช้มีดฟันใส่ตนหลายครั้งจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะล้วงเอาเอากระเป๋าสตางค์ภายในมีเงินสดจำนวนหนึ่ง กุญแจรถยนต์ และโทรศัพท์มือถือ ก่อนวิ่งหลบหนีลงมาชั้นล่าง ตนพยายามร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน และวิ่งตามชายคนดังกล่าวลงมาแต่ไม่พบตัว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า ชายคนดังกล่าวน่าจะเป็นคนร้ายที่จะเข้ามาลักทรัพย์หรือตามมาทำร้ายใครสักอย่าง ระหว่างที่ผู้ก่อเหตุมายืนรอลิฟท์เพื่อที่จะลงมาชั้นล่างซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้บาดเจ็บเข้าไปทัก ผู้ก่อเหตุจึงได้ใช้มีดกระหน่ำฟันก่อนชิ่งเอาทรัพย์สินไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนหาเบาะแสผู้ก่อเหตุเพื่อติดตามจับกุมตัวมาทำการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป