
เริ่มแล้ว วันแรม 8 ค่ำเดือน 11 ของทุกปี งานประเพณีลากพระทางน้ำข้ามทะเลหนึ่งเดียว จ.ตรัง วิถีไทยวิถีชาว ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ ตั้งรกรากริมทะเล สืบทอดกันมาร่วมหลายร้อยปี ปีนี้งดออกทะเลไปแหลมจุโห้ยเพราะคลื่นลมในทะเลแรง
วันที่ 10 ตุลาคม 2563 นี้ เวลา 09.30 น ที่ท่าเทียบเรือปากปรน ม.1 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง นายณรงค์ หนูเนียม นายอำเภอหาดสำราญ นายวิวา เก้าเอี้ยน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 พร้อมชาวบ้าน อ.หาดสำราญหลายร้อยคน ร่วมประเพณีลากพระทางน้ำข้ามทะเล
โดยมีเรือพาย เรือขบวนกลองยาว รวมทั้งเรือชาวบ้านนักท่องเที่ยวที่ร่วมขบวน 20ลำ ร่วมกันลากเรือพระ ออกจากท่าเทียบเรือบ้านปากปรน ไปยังปากอ่าวแม่น้ำปะเหลีบยระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร แล้วหันหัวเรือกลับ มายังท่าเรือบ้านปากปรน ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
ในปีนี้สาเหตุที่ผู้นอท้องถิ่น ชาวบ้านไม่นำขบวนเรือไปยัง แหลมจุโหย ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ระยะทางรวมไปกลับ 10 กิโลเมตรนั้น เพราะกรมอุตุประกาศเตือนคลื่นลมในทะเลแรง ตั้งแต่วันที่ 7-11 ตุลาคมนี้ เพื่อความปลอดภัย ในการประชุมชาวบ้านจึงตัดสินใจ ไม่ออกทะเลไปยังแหลมจุโห้ย เหมือนทุก ๆ เพราะคลื่นลมในทะเลแรง
ผู้สื่อข่าวสังเกตได้เมื่อเรือถึงปากอ่าวแม่น้ำปะเหลียนเชื่อมปากอ่าวตรงทะเล ลมแรง อีกทั้งชาวประมงเองก็งดทำการประมงในระยะนี้
ในขบวนเรือพระ จะอัญเชิญพระพุทธรูปและนิมนต์พระสงฆ์นั่งประจำเรือ พร้อมทั้งใส่เครื่องดนตรี โพน มีเรือกลองยาวคอยตีตามจังหวะ ฉิ่ง ฉาบ ไว้คอยส่งสัญญาณให้จังหวะในการลาก ตลอดช่วงเวลาการลากเรือพระจะมีกิจกรรมซัดต้ม การเกี้ยวพาราสีหยอกล้อระหว่างเรือแต่ละลำ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและสนุกสนาน
ในช่วงบ่ายจะมีการแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน แข่งขันขูดมะพร้าว แข่งขันลอกใบจาก แข่งขันแทงต้ม(ห่อขนมต้ม) การประกวดร้องเพลง เป็นต้น เพื่อเป็นการร่วมทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ สร้างชุมชนให้เข้มแข็งและเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์ประเพณีให้สืบทอดกันเรื่อยมานับร้อยปีจนถึงปัจจุบัน กระทั่งเป็นประเพณีประจำถิ่นเพียงแห่งเดียวในโลก
สำหรับงานประเพณีลากพระทางน้ำข้ามทะเลนี้ นับเป็นประเพณีที่เก่าแก่สืบทอดมายังคนรุ่นหลังหลายร้อยปี เพราะพี่น้องชาวไทยพุทธที่อาศัยอยู่ที่ริมทะเล หาดสำราญ รักษาประเพณีวัฒนธรรมอันดีนี้ไว้ โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นวันที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์สู่โลกมนุษย์ หลังเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดา ณ สวรรค์ชั้นดุสิต ตลอดพรรษา
ซึ่งชาวบ้านทั่วไปจะเดินทางไปร่วมงานลากเรือพระทางบก แต่เนื่องจากชาวปากปรน ต.หาดสำราญ ตั้งรกรากริมทะเล มีอาชีพทำการประมง วิถีชีวิตจึงเกี่ยวข้องกับแม่น้ำลำคลอง ทะเล ใช้เรือสัญจรและประกอบอาชีพ ซึ่งในสมัยก่อนการเดินทางโดยทางบกเป็นไปด้วยความยากลำบาก ประกอบกับชาวบ้านส่วนใหญ่มักจะทำการประมงกันในช่วงที่น้ำทะเลขึ้นสูง หรือน้ำใหญ่
ดังนั้นชาวบ้านปากปรน จะยึดเอาช่วง วันแรม 8 ค่ำเดือน 11 ของทุกปี ชักพระทางน้ำข้ามทะเล ส่วนการลากพระในพื้นที่อื่น ๆ ของจังหวัดตรัง หรือภาคใต้ จะมีการลากพระกันในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ชาวบ้านปากปรนจึงมักไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมงาน จึงต้องทำการลากพระทางน้ำข้ามทะเล กันในวันแรม 8 ค่ำเดือน 11 ของทุก ๆ ปีจนมาถึงวันนี้หลายร้อยปีแล้ว