Sanook77

ทำเพื่อเด็ก! อดีตข้าราชครูร่วมกับรองนายกฯไผ่วง สละเวลามาเป็นครูจิตอาสา

อ่างทองข่าว
//s.isanook.com/ss/0/ud/2/13278/gal-13278-20201009120346-9d26.jpg

วันที่ 8 ตุลาคม 2563   ผู้สื่อข่าวรายงานที่โรงเรียนวัดไผ่วง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลังได้พบความเสียสละและความมีน้ำใจของอดีตข้าราชการครู ที่สละเวลาส่วนตัวมาเป็นจิตอาสาช่วยเป็นครูสอนหนังสือให้แก่เด็กในโรงเรียนวัดไผ่วง 

เนื่องจากโรงเรียนแห่งนี้ไม่มีบุคลากรในการสอนหนังสือให้กับเด็กนักเรียนตลอดระยะเวลา 3เดือนครึ่ง ที่ผ่านมาโดยที่ไม่คิดค่าการสอนแต่อย่างใด ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษา สอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล - ประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนทั้งหมด 43 คน มีข้าราชการครูเพียง  1 คน ซึ่งไม่เพียงพอต่อการสอนหนังสือสำหรับเด็กๆ เหล่านี้

นายพิชัย ธีรานนท์ อดีตข้าราชการครูบำนาญ  กล่าวว่า  ตนเองเคยเป็นครู และสอนอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรีมาก่อนเกษียณมาได้ประมาณ 5 ปีแล้ว เมื่อช่วงก่อนที่จะมาสอน ภรรยาชื่อคุณครูทองอาบ ธีรานนท์ ได้รับเชิญให้เข้ามาร่วมประชุมกับทางโรงเรียนเนื่องจากเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนวัดไผ่วงแห่งนี้ และได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นว่า

ทั้ง ผอ.และครูผู้สอนได้ขอย้ายกลับภูมิลำเนาไป ทำให้บุคลากรครูเหลือเพียงคนเดียว ส่วนอีก 2 คน เป็นครูพี่เลี้ยงช่วยดูแเด็กปฐมวัยและเจ้าหน้าที่ธุรการ จากนั้นภรรยากลับมาบ้านได้เล่าเรื่องราวให้ฟังจึงตัดสินใจรับปากจะไปช่วยสอนเด็กให้ พอมาดูแล้วพบว่าที่นี่มีครบเกือบทุกอย่าง ขาดอย่างเดียวคือครู ซึ่งตนเองเคยสอนวิชาคณิตศาสตร์ส่วนภรรยาสอนวิชาวิทยาศาสตร์ โดยสอนให้กับนักเรียน 4 ระดับชั้น ป.3-ป.6 

นอกจากนั้นยังช่วยสอนวิชาพละศึกษาให้กับเด็ก ๆ อีกด้วยแต่กำลังครูผู้สอนแค่นี้คงไม่พอ จึงได้นำเรื่องไปปรึกษากับนายวิสูตร จันทร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไผ่วงถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับโรงเรียนวัดไผ่วง ซึ่งเมื่อได้รับรู้ปัญหา จึงตัดสินใจมาช่วยสอนในวิชาพละอีกแรงหนึ่งพร้อมชักชวนเพื่อนมาช่วยสอนในวิชาสังคมศึกษา และคอมพิวเตอร์ให้กับเด็ก ๆ  

ต้องบอกอีกอย่างว่าเด็ก ๆ เหล่านี้เป็นเด็กด้อยโอกาส บางคนอยู่กับตายาย พ่อแม่ทำงานที่อื่นก็มี ส่วนใหญ่เด็ก ๆ พวกนี้บ้านอยู่ใกล้ ๆ โรงเรียน ปั่นจักรยานกันมาเองในตอนเช้า บางคนก็มีผู้ปกครองมาส่ง ตนเองและภรรยามาช่วยสอนที่นี่ไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรมีแต่จะหามาให้เด็ก ๆ ทั้งทุนการศึกษา ทุนอาหารกลางวัน มันเป็นความสุขของคนแก่ที่เกษียณที่ได้มีโอกาสมาดูแลมาสอนหนังสือเด็ก ๆ อีกครั้ง ดีกว่าเสียเวลาอยู่กับบ้านเฉย ๆ

นายวิสูตร จันทร รองนายยกองค์การบริหารส่วนตำบลไผ่วง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในฐานะที่ตนเองเป็นศิษย์เก่าของที่นี่ จึงไม่สามารถนิ่งดูดายได้ สงสารครูที่ต้องมารับภาระอยู่เพียงคนเดียว พยายามทำทุกวิธีเพื่อให้เด็กได้รับความรู้มากที่สุด โดยอีกไม่กี่วันจะขยับมาช่วยสอนวิชาสังคมศึกษาให้กับเด็ก ๆ ตอนนี้กำลังเตรียมสื่อการสอนและศึกษาอยู่ว่าควรสอนเด็กในระดับไหน เนื่องจากตนเองไม่ได้เป็นครูโดยอาชีพ 

อีกอย่างหนึ่งคืออยากฝากไปถึงผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพฐ. หรือผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาธิการก็ได้ อยากให้ลงมามองปัญหาแบบนี้ที่เกิดขึ้นกับโรงเรียนที่ห่างไกลตัวเมืองบ้าง ไม่ใช่เฉพาะที่โรงเรียนวัดไผ่วงแห่งนี้ที่เดียว ตนเองเชื่อว่ายังมีอีกหลายโรงเรียนที่กำลังประสบปัญหาแบบนี้ เพียงแต่ว่าเค้าไม่รู้ว่าจะไปพูดไปบอกกับใครได้ จึงอยากวอนผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบหรือสามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับเด็ก ๆ ได้ ลงมาดูแลด้วยครับ

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามคุณครูพี่เลี้ยงเนื่องจากได้ทราบมาว่าเงินที่ใช้จ้างในตำแหน่งนี้ก็กำลังจะหมด โดยนางสาวกรรณิกา  งามลมัย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองเป็นคนในพื้นที่เป็นคนไผ่วง เราทำงานที่นี่มานับ 10 ปีแล้ว ดูแลเด็กเล็กมาโดยตลอด ได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างจากคุณครูสำเนียง แกเป็นคนดี น่ารัก ห่วงใยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ คุณครูต้องรับบทบาททุกหน้าที่ อะไรที่เราพอจะช่วยได้เราก็จะช่วยคุณครู 

แต่หน้าที่หลักส่วนใหญ่จะอยู่กับเด็ก ๆ อนุบาล ไม่สามารถทิ้งไปไหนไกลให้คลาดสายตาได้ ต้องดูแลใกล้ชิด ส่วนตัวแล้วชอบที่จะดูแลเด็ก ๆ เพราะเราอยากปูพื้นฐานการศึกษาที่ดีให้กับเด็ก ๆ เพื่ออนาคตของพวกเขา พร้อมที่จะสู้เพื่อเด็ก ๆต่อไป แต่ก็อยากได้ครูเพิ่มเพื่อมาแบ่งเบาภาระของคุณครูสำเนียง

ด้านนางสาวเกศริน  สังข์ยุทธ์ เจ้าหน้าที่ธุรการ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า โดยตำแหน่งจ้างตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสอนหนังสือเด็ก ๆ แต่อย่างใด แต่คุณครูเกศริน ก็ต้องสอนค่ะ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันโรงเรียนมีครูประจำการอยู่เพียงคนเดียว เราต้องช่วยกันอะไรที่พอจะแบ่งเบาภาระได้เราก็จะช่วยกัน ก็จะมีวิชาอังกฤษ สังคม การงาน คือวิชาอะไรที่เราได้เราพอสอนได้ก็จะช่วยคุณครูเค้าสอน 

จากใจเลยคือเราสงสารคุณครูสำเนียง แกต้องทำทุกอย่างคนเดียว ทั้งสอน ทั้งเรื่องพัสดุ ทั้งงานทะเบียน คือถ้าเราช่วยแบ่งเบาภาระให้คุณครูเค้าได้เราก็จะทำ  ถามว่าเหนื่อยมั้ย เหนื่อยค่ะแต่ก็จะทำต่อไป สงสารเด็ก ๆ ถ้าใครมาอยู่ตรงนี้จะรู้เลยว่าเราทิ้งเด็ก ๆ ไม่ได้ จะสู้ต่อไปเพื่อพวกเค้าไม่ทิ้งไปไหน

คุณครูสำเนียง  โค​จำนงค์​ ครูประจำโรงเรียนวัดไผ่วง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า มีตนเองที่เป็นข้าราชการครู กับพี่เลี้ยงเด็กและเจ้าหน้าที่ธุรการ ที่ช่วยกันสอน เหนื่อยก็ต้องทนเพื่อเด็ก ๆ เพื่อชุมชน มีอยู่ครั้งหนึ่งต้องไปอบรมที่เขต แต่ใจเราก็ไม่เป็นสุขหรอก เราห่วงที่โรงเรียนมากกว่า มีแค่น้อง 2 คนอยู่ เราก็พะวงว่าเค้าจะไหวรึเปล่า เพราะเค้าก็ไม่ได้เป็นครูด้วย แต่เค้าก็ช่วยเราสอน 

ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่าเคยถามไปทางเขตพื้นที่การศึกษารึเปล่าเรื่องครูที่จะมาช่วยสอนเพิ่ม ครูสำเนียงกล่าวต่อว่า ถามค่ะ คอยถามอยู่ตลอด ถามอยู่บ่อย ๆ ทางผู้ใหญ่ก็บอกว่าต้องรอตามขั้นตอน ตามระเบียบขั้นตอนของกระทรวงฯ ถามว่าเหนื่อยมั้ย เหนื่อยค่ะ แต่คำว่าสู้มันต้องมาก่อน ท้อไหมท้อ แต่ว่าถ้าเราไม่ทำใครจะทำ นี่ก็ชุมชนวิเศษชัยชาญเหมือนกัน เราก็คนวิเศษฯ ที่ทำทุกวันนี้ใจล้วน ๆ เลยค่ะ จิตวิญญาณของความเป็นครูในหลวงท่านเคยสอนไว้ว่า ถ้าครูรักเด็ก เด็กก็จะรักครู นี่เป็นคำเดียวที่ยึดถือมาตลอด แล้ว ๆ ที่นี่ก็รักครู ครูก็ห่วงเด็กเด็กตาดำ ๆ ทิ้งไม่ได้หรอกค่ะ

ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับบเด็กนักเรียน กลุ่มนักเรียนได้กล่าวว่า คุณครูเป็นคนดี สอนนักเรียนทุกชั้น ตั้งแต่ป.1 -ป.6 เลยครับ เห็นคุณครูเค้าเหนื่อยมากเลยครับ เค้าต้องรับผิดชอบทุกอย่าง รักคุณครูมากครับ ไม่อยากให้ครูไปไหนหรือตุลาคมออก เพราะถ้าครูไม่มีก็อาจไม่มีที่เรียนอาจถูกยุบ ต้องไปเรียนที่อื่นที่ไกลจากบ้าน ไม่สามารถขี่จักรยานไปโรงเรียนได้ อยากได้ครูมาค่ะ เพราะเหลือครูแค่คนเดียว

 

แกลเลอรี

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวภาคกลางอ่างทอง

เนื้อหาโดย

Hiranyawat A.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

MOU นำร่องการพัฒนา ความรอบรู้สุขภาพด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิต
ร้อยเอ็ดข่าว

MOU นำร่องการพัฒนา ความรอบรู้สุขภาพด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิต

โดยปางปราบมาร/
โหลดเพิ่มเติม