Sanook77

อนุฯสื่อ วุฒิสภา เร่งศึกษากรณี “คดีน้องชมพู่” 

กรุงเทพมหานครข่าว
//s.isanook.com/ss/0/ud/2/13055/_nz67520.jpg

การประชุมคณะอนุกรรมาธิการสิทธิเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนและสื่อสาธารณะ ในคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา วันพุธที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓  ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ (สว.) อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) ได้มีการพิจารณารวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงเบื้องต้นเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชน โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายด้านวิชาชีพสื่อมาให้ข้อมูล ทั้งนี้มีการหยิบยกประเด็น การนำเสนอข่าวคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ มาเป็นกรณีศึกษา

ดร.นิพนธ์ นาคสมภพ ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ  กล่าวว่า การประชุมวันนี้ ถือเป็นการรับฟังสภาพปัญหา และเก็บข้อมูล กรณีการนำเสนอข่าวการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ที่มีทั้งผู้บริหารจากวิชาชีพ และนักวิชาการ เพื่อที่จะนำไปสู่การวิเคราะห์ปัญหาด้านวิชาชีพสื่อมวลชน ทั้งคุณธรรม จริยธรรม ที่จะนำไปสู่พิจารณาแก้ไขปัญหาหรือสร้างมาตรฐานด้านวิชาชีพ  โดยเฉพาะด้านกฎหมายจริยธรรม 

“อมรินทร์ทีวี” ย้ำทำตามจรรยาบรรณวิชาชีพ

นายนภจรส ใจเกษม บรรณาธิการบริหาร สถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี  ชี้แจงถึงเรื่องจริยธรรมสื่อมวลชนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์  กรณีนำเสนอข่าวน้องชมพู่ ว่าช่วงแรกๆที่ลงพื้นที่ เราไม่คิดว่าข่าวนี้จะปั้นให้ใครดัง แค่อยากค้นหาความจริงให้รอบด้านที่สุด  

“ ประเด็นเสียงวิจารณ์ ว่าการนำเสนอข่าวของเราทำให้เกิดความแตกแยกในชุมชนนั้น จริงๆ แล้วชาวบ้านกกกอกต้องการให้เราเกาะติดคดีนี้มากกว่า เพราะไม่อยากให้ข่าวเงียบ ส่วนที่พูดถึงเรื่องจรรยาบรรณเราให้ความสำคัญ เช่น เมื่อบางคนที่ให้สัมภาษณ์แล้วกลับรู้สึกไม่สบายใจเราก็ไม่ออกอากาศ หรือบางคนก็ปิดบังหน้าตาให้”

“ไทยรัฐ”ปรับทัพดึงฝ่ายเซนเซอร์ช่วยเชคข่าวก่อนออนแอร์

นายกฤษณ์ชนุตณ์ เจียรรัตนกนก รองผู้อำนวยการสายสนับสนุน ไทยรัฐทีวี กล่าวว่า  กรณีคดีน้องชมพู่ เราลงพื้นที่เพื่อตามหา เราพยายามค้นหาความจริงให้ปรากฏ ดังนั้นถามว่าเราได้มีการละเมิดตามวิจารณ์หรือไม่ ยอมรับว่าบางครั้งคาดไม่ถึง แต่เราก็ปรับตัวตลอด ไทยรัฐทีวีเองมีฝ่ายเซนเซอร์ เราให้ทีมนี้เข้ามามีบทบาทในการทำงานกองบรรณาธิการมากขึ้น เรามีกระบวนการตรวจสอบมากขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจ ซึ่งไทยรัฐทีวีน่าจะเป็นช่องแรกที่ให้ ฝ่ายเซนเซอร์เข้าไปอยู่ในกระบวนการนำเสนอข่าว

“อิสระ” แต่ต้องเป็นธรรมและไม่ล้ำเส้น

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนาคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ นิด้า กล่าวถึงหลักการทำงานของสื่อ ควรยึดหลักในการทำหน้าที่ 5 ข้อ คือ หนึ่ง-การทำความจริงให้ปรากฏ  สอง-สื่อจะมีมาตรการอย่างไรในการปกป้องความอิสระ แต่ไม่ให้ล้ำเส้น สาม-ความเป็นจริงเสนอไปแล้วเป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้องหรือไม่ สี่-ความยินยอม ไม่ได้แปลว่าสามารถทำได้ ต้องพิจารณาหากยอมแต่ไม่เกิดผลดี สังคมเสียหายไปแล้วใครรับผิดชอบ ห้า-ความรับผิดชอบ  สื่อที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ จะรับผิดชอบอะไรบ้าง เมื่อมีปัญหารับผิดหรือไม่ การที่ระบุว่าไม่คาดคิด เคยมีการขอโทษ หรือแก้ไขหรือไม่  “ผมไม่สงสัยในเรื่องจริยธรรม แต่การทำข่าวมันไม่ควรมองข้ามผลสืบเนื่องการนำเสนอ  เช่น การเลียนแบบ ที่อาจจะมีการโปรโมทผู้ต้องสงสัยอีกในอนาคตหรือไม่ มันจะเป็นค่านิยมที่บิดเบี้ยว เรื่องนี้ประโยชน์ที่เกิดต่อสังคมและสาธารณะไม่ได้ไรเลย”

ชี้จัดสรรงบสนับสนุนสื่อสร้างสรรค์

นาย วสันต์ ภัยหลีกลี้ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการฯ กล่าวว่า  กรณีคดีน้องชมพู่ พบว่ามีสื่อบางสื่อที่เลือกไม่เล่นข่าวนี้เลย หรือไม่เล่นเยอะแค่นำเสนอปรากฏการณ์แล้วก็จบไป เพราะคดียังไม่คืบ กรณีที่เป็นที่วิจารณ์มองว่าเป็นการเล่นข่าวตามกระแสและต้องการเรทติ้งหวังโฆษณา ตนอยากเสนอว่าอาจต้องมีกระบวนการที่ไม่ได้วัดเรื่องเรทติ้งอย่างเดียว  ควรจะ Base on Quality เพื่อประโยชน์ที่สังคมควรจจะได้รับ และบอกคนสนับสนุนให้มองเห็นประโยชน์จากเรื่องนี้ และเพื่อให้กำลังใจสื่อที่ทำงานสร้างสรรมีความแข็งแรงต่อไป

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวกรุงเทพและปริมณฑลกรุงเทพมหานคร

เนื้อหาโดย

ปางปราบมาร
เปิดโปงความชั่วทั่วพิภพ ตีแผ่ความดีทั่วแผ่นดิน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ชาวนาสระบุรีร้อง โดนผู้นำชุมชนบวกราคาข้าวอีกเท่าตัวในโครงการของกรมการข้าวปี 66
สระบุรีข่าว

ชาวนาสระบุรีร้อง โดนผู้นำชุมชนบวกราคาข้าวอีกเท่าตัวในโครงการของกรมการข้าวปี 66

โดยปางปราบมาร/
โหลดเพิ่มเติม