
วันที่ 28 ก.ย.63 ที่วัดพระธาตุดอยคำ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นวัดชื่อดัง และวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ในแต่ละวันจะมีประชาชน และนักท่องเที่ยว เดินทางขึ้นไปสักการะบูชา และมีชื่อเสียงในเรื่องขอพรกับหลวงพ่อทันใจ ซึ่งในขณะนี้ที่วัดได้มีการบูรณะตกแต่งและเขียนภาพวาดตามกำแพงวัด รวมทั้งกำแพงประตูทางเข้าอุโบสถใหม่
แต่ที่ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเกิดความสนใจและสะดุดตานั้น พบว่าในภาพวาดนั้น ได้มีการสอดแทรกตัวละครในเรื่องราวด้วยการวาดภาพศิลปิน ดารา และบรรดาเหล่าฮีโร่จากภาพยนตร์ต่าง ๆ ลงไปด้วย เช่น ทั้ง ตูน บอดี้สแลม , ไอรอนแมน , อควาแมน และ ตัวร้ายอย่าง กอลลั่ม จากเรื่อง The Lord of the Rings เป็นต้น อยู่ภายในภาพวาดของกำแพงทางขึ้นวัด สร้างความสนใจให้กับบรรดาผู้พบเห็นและพากันถ่ายภาพเก็บไว้
นายธกฤต ขันแก้ว อายุ 48 ปีหัวหน้าช่างผู้สรรค์สร้างภาพวาด บอกว่า ตนเองและกลุ่มศิลปินที่ทำงานวาดเขียนภาพภายในวัดดอยคำ ส่วนใหญ่เป็นเครือญาติเดียวกัน ซึ่งตนมีอาชีพเป็นช่างวาดภาพตามกำแพงและผนังวัดมานานกว่า 20 ปี
ซึ่งการเป็นสล่า หรือ ช่างวาดภาพตามกำแพงหรือผนังวัดนั้นก็ต้องมีความรู้ในเรื่องของประวัติศาสตร์พุทธศาสนาพอสมควร รู้เรื่องลำดับขั้น ชั้นสวรรค์และนรก ถึงจะเขียนเรื่องราวเหล่านี้ได้ และไม่ใช่ว่าใครที่วาดเขียนเป็นก็จะมาเขียนได้เลย เพราะสิ่งเหล่านี้ต้องใช้จินตนาการและควบคู่กับความรู้ความเข้าใจในเรื่องของพุทธศาสนาด้วย
ส่วนของเรื่องราวภาพวาดที่มีดารา นักแสดง และ บรรดาเหล่าฮีโร่จากภาพยนตร์เพื่อต้องการให้เป็นศิลปะร่วมสมัย มีการสอดแทรกลูกเล่นเข้าไปเพื่อให้เกิดความน่าสนใจ เพราะปัจจุบันคนที่หันมาเข้าวัดนั้นมีทั้งเด็ก วัยรุ่น และ ผู้สูงวัย การสื่อภาพวาดเรื่องราวเหล่านี้จึงควรทำให้ทุกวัยเกิดความสนใจ
โดยเรื่องราวในภาพก็สื่อถึงการทำความดี เช่น ตูน บอดี้สแลม รวมทั้งเหล่าฮีโร่ต่าง ๆ ก็ล้วนเป็นคนที่สร้างสรรค์ความดีให้กับบ้านเมือง และเป็นแบบอย่างความดีที่น่ายกย่อง หรือ เป็นวีรบุรุษช่วยเหลือชาวบ้าน เพราะพี่ตูน บอดี้แสลม ก็เป็นนักวิ่ง และเป็นดาราที่เคยช่วยเหลือคน และทำการกุศลมากมาย ตนจึงมีแนวคิดที่นำหน้าตาของพี่ตูนมาวาดเขียนเป็นเทวดาที่มาร่วมกันทำความดีบนสรวงสวรรค์
ด้าน นายจิตรกร ขันแก้ว อายุ 26 ปี หลานชายของ นายธนกฤต ซึ่งเป็นผู้วาดภาพ กล่าวว่า สาเหตุที่นำภาพดารา และบรรดาเหล่าฮีโร่ วาดเขียนสอดแทรกเข้าไปในเรื่องราวของพุทธศาสนานั้น ก็เพื่อต้องการที่จะสื่อถึงให้ทุกคนที่พบเห็นเป็นคนดี กระทำความดีตามแบบอย่างของบุคคลในภาพ รวมไปถึงการร่วมแรงร่วมใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้เกิดความสำเร็จ และถือเป็นแนวคิดสร้างสรรค์ที่นำเข้ามารวมไว้กับคำสอนของพุทธศาสนาอีกทางหนึ่งด้วย
โดยภายหลังจากที่มีการวาดภาพออกไปแล้วนั้นก็พบว่ามีกระแสตอบรับที่ดี มีประชาชนให้ความสนใจชื่นชอบผลงาน และก็ต่างพากันมาถ่ายภาพไว้ ซึ่งก็ถือเป็นอีกผลงานที่ตนภาคภูมิใจ