วันที่ 21 ก.ย.63 ตำรวจ สภ.บ้านบัว อ.ประโคนชัย ได้รับแจ้งมีเหตุคนจมน้ำ ที่ฝายน้ำล้นบ้านกระสัง ต.จระเข้มาก คาดว่าน่าจะเสียชีวิต จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ประโคนชัย เข้าร่วมตรวจสอบ
โดยต่อมา พ.ต.ท.โสภณ โสกงโสด รอง ผกก.(ปราบปราม)สภ.บ้านบัว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย ร.ค.อ.สุธี ดาศรี รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.บ้านบัว อ.ประโคนชัย เดินทางไปที่เกิดเหตุ
บริเวณดังกล่าว เป็นฝายน้ำล้นขนาดใหญ่ยาวประมาณ 50 เมตร มีน้ำล้นฝายสูงกว่า 25 ซม แต่มีลักษณะไหลเชี่ยว ชาวบ้านพยายามค้นหานายอุดร พลเทพ อายุ 60 ปี อยู่บ้านหมู่ 17 ต.จระเข้มาก อ.ประโคนชัย ที่จมน้ำ โดยรอบแต่ไม่พบ จึงประสานชุดประดาน้ำของหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม บุรีรัมย์ มาช่วยเหลือ
การค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากมีน้ำไหลเชี่ยว และจุดที่ลุงจมน้ำเป็นจุดที่ลึกที่สุด ผ่านไปประมาณ 5 ชม.ก็ไม่มีวี่แววที่จะเจอร่าง หน่วยกู้ภัยจึงทำพิธีเปิดภพภูมิ บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าที่เจ้าทาง ขอให้พบร่าง จากนั้นใช้เวลาอีกประมาณ 10 นาที ก็พบร่างอยู่ก้นฝายลึกประมาณ 8 เมตร พร้อมรถจักรยายนต์ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีดำ-เหลือง
สอบถามนายรวย อายุ 61 ปี อยู่บ้านหมู่ 17 ต.จระเข้มาก อ.ประโคนชัย ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนเองกำลังหาปลาบริเวณรอบฝาย เห็นนายอุดร ผู้ตาย ขับรถจักรยานยนต์มาที่ฝาย แล้วขับลงกลางฝายตรงจุดที่น้ำล้น เมื่อสอบถามทราบว่า “จะเอารถมาล้าง”เพราะไม่ได้ล้างรถมานาน
หลังจากนายอุดร ล้างรถเสร็จ ตนก็นั่งมองเห็นผู้ตายขับรถออกมาช้าๆ ทันใดนั้นกระแสน้ำได้พัดเอารถไหลตามน้ำ โดยนายอุดร ยังควบรถจักรยานยนต์ค้างอยู่ ก่อนรถจะไหลลงน้ำอย่างช้าๆ
ตอนแรกนายอุดร ได้ประคองตัวลอยน้ำอยู่ ตนกับเพื่อน 2-3 คน ได้วิ่งหาไม้เพื่อจะยื่นไม้พาดให้นายอุดร จับ แต่ไม้ยาวไม่ถึง ทันใดนั้นนายอุดร ก็จมน้ำไปต่อหน้า จึงไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบให้คนมาช่วยเหลือดังกล่าว
