
วันที่ 17 สิงหาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนถูกยิงตายภายในบ้านจำนวน 3 ศพ บ้านพรุชี ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ในเวลาต่อ พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.สานิต พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้รุดไปยังที่เกิดเหตุ
พบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้น มีรถยนต์เอนกประสงค์ ธนาคารแห่งหนึ่งจอดอยู่ในบ้าน 1 คัน จากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจพบว่า ผู้เสียชีวตมีด้วยกัน 3 คน คนแรก คือนางสาธิตา อายุ 45 ปี ทำงานเป็นผู้ดจัดการธนาคารแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครตรัง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง
คนที่ 2 นาย เอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี และ คนที่ 3 ด.ญ.บี(นามสมมุติ) ผู้ตายคนแรกเป็นแม่ของลูกทั้ง 2 คน ส่วนสามีและพ่อของเด็กทั้ง 2 คน คือ นายพีระพัฒน์ เป็นผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ ขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ที่บ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์ และ พิสูจน์หลักฐานตรัง กำลังทำการชันสูตรพลิกศพภายในบ้านพัก ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง ร่วมทำการชันสูตรพลิกศพด้วย ส่วนสาเหตุที่แท้จริง รอการสืบสวนสอบสวนของตำรวจให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังเพื่อนบ้านคนหนึ่งซึ่งมีบ้านติดกัน พ.ต.อ.สาธิต จันศร อดีตผกก. เปิดเผยว่า”ครอบครัวนี้ สามีภรรยาลูก ๆ รักดี แต่ภรรยานั้น เป็นโรคซึมเศร้าไปทำการรักษากับแพทย์เสมอมา โดยที่ นางสาธิตา เคยมาเล่าและขอคำปรึกษากับตนว่า ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
แท้จริงนั้น บรรพบุรุษของตนเองนั้น มีครูมโนราห์ ทำให้ตนเองเกิดอาการแบบนี้ เพราะไม่ได้ไปไหว้ครูมโนราห์ แต่คนทั่ว ๆ ไปไม่เชื่อ อีกทั้งสามีเองก็ไม่เชื่อ จึงไม่กล้าที่จะไปทำพิธีรับมโนราห์ เพราะกลัวจะเกิดปากเสียงกับสามี
เพื่อนบ้านยังบอกอีกว่า “ลูก ๆ ทั้ง 2 คนเป็นเด็กน่ารัก อยู่ในบ้าน ไม่เกเร ครอบครัวนี้ อยู่กันอย่างเรียบร้อย สามีของผู้ตายผู้จัดการแบงก์ก็เรียบร้อย ไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ ในความเห็นของตน น่าจะมาจากอาการป่วยโรคซึมเศร้า ตามหลักวิชาการของแพทย์ ที่ทำให้ภรรยาก่อเหตุในครั้งนี้”