
จากกรณีเมื่อวันที่ 8 ส.ค.63 เวลา 15.00น.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุมีโจรใจบาปอายุประมาณ 40 ปี สวมหมวกไหมพรม สวมเสื้อแขนยาวสีเทา และกางเกงขายาวสีเทา รูปร่างเตี้ยผิวดำแดง ได้ขี่จักรยานยนต์มาจอดภายสำนักสงฆ์บ้านเนินพระจันทร์ หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
ก่อนบุกขึ้นไปกุฏิแม่ชีชุตินันท์ อายุ 50 ปี ขณะนั่งสวดมนต์อยู่ภายในกุฎิเพียงลำพัง แล้วบังคับให้แม่ชีชุตินันท์ ส่งกระเป๋าเงินและทรัพย์สินมีค่าส่งให้คนร้ายหลัง จากนั้นกระหน่ำหมัดกำปั้นรัวชกไปบริเวณใบหน้าของแม่ชีชุตินันท์ และเบ้าตา ลำตัวกว่า 10 มัด
จนแม่ชีล้มลงกองกับพื้น ก่อนที่คนร้ายจะชิงกระเป๋าสตางค์มีเงินสดกว่า 4,000บาท โทรศัพท์มือถือ บัตรเอทีเอ็ม และเอกสารทางราชการ รีบวิ่งหนีออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขับขี่หลบหนีออกไปทันที
วันที่ 9ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังสถานที่เกิดเหตุสำนักสงฆ์ บ้านเนินพระจันทร์ หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ซึ่งอยู่ท้ายหมู่บ้านเกือบ 1 กม.พบว่าภายในสำนักสงฆ์ และกุฎิแม่ชีปิดเงียบ
จากการสอบถาม ชาวบ้านวัย 50 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 2 ถึงวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าอาวาสมรณภาพและแม่ชีชุตินันท์ อายุ 50 ปี ที่บวชชีอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการได้เดินทางมาจัดงานพิธีศพแบบโบราณให้เจ้าอาวาสซึ่งเป็นบิดา ที่จำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เพียงองค์เดียว หลังจากเสร็จงานเผาศพเจ้าอาวาส แม่ชีก็อยู่ที่สำนักสงฆ์นี้เพียงลำพัง และมีกำหนดเดินทางกลับวัดที่สมุทรปราการหลังจบงานทุกอย่าง
ซึ่งในขณะที่แม่ชีชุตินันท์ อายุ 50 ปี กำลังนั่งสวดมนต์อยู่ภายในกุฎิ ได้ยินเสียงรถ จยย.มาจอดบริเวณหน้ากุฎิ แต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าเป็นชาวบ้านทั่วไปจึงนั่งสวดมนต์ต่อไป แต่ทันใดนั้น แม่ชีต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงของผู้ชายยืนพูดอยู่ด้านหลังว่าอย่าเอะอะอย่าร้องให้คนช่วย ให้อยู่เงียบๆและอย่าหันหลังมามองพร้อมบอกให้ส่งกระเป๋าสตางค์ และของมีค่ามาถ้าไม่ให้จะฆ่าให้ตาย
แม่ชีก็ยอมส่งกระเป๋าสตางค์ ซึ่งภายในมีโทรศัพท์มือถือบัตรเอทีเอ็มและบัตรประชาชนพร้อมเงินสดจำนวน 4000บาทเตรียมไปจ่ายค่าของงานศพที่ค้างร้านค้าไว้ จังหวะนั้นแม่ชีพยายามเอี้ยวตัวหันไปมองคนร้าย ด้านคนร้ายจึงตะโกนว่าบอกแล้วไงว่าห้ามหันมามอง
จากนั้นคนร้ายก็ใช้กำปั้นชกไปที่บริเวณใบหน้า เบ้าตาแบบรัวมัด และลำตัวกว่า 10 มัด จนแม่ชีล้มลงกองกับพื้นและคนร้ายรีบวิ่งหนีไปพร้อมกับกระเป๋าสตางค์ ขึ้นรถ จยย.ขับหนีออกไปทันที
หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 10 นาที แม่ชีจึงรวบรวมกำลังลุกขึ้นและเดินโซซัดโซเซไปตามถนนเกือบ 500 เมตร เพื่อไปหาคนช่วย จนไปพบชาวบ้านช่วยแจ้งกู้ภัยและนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้แม่ชีกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลคอนสารยังอยู่ในอาการสาหัส ยังลืมตาไม่ขึ้นใบหน้าบวมเปล่ง บริเวณปากมีบาดแผลและยังให้น้ำเกลือ
โดยมีญาตินั่งเฝ้าและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด แต่ญาติๆไม่อนุญาตให้บันทึกภาพคนไข้ในโรงพยาบาล
ล่าสุดด้าน ร.ต.อ.ทะวิต คงโนนกอก รอง สารวัตร สอบสวน สภ.ห้วยยาง เจ้าของคดี กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และได้จับกุมชายวัยรุ่นต้องสงสัยที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้ 1 ราย แต่งยังให้การปฏิเสธ
จากการนำตัวไปตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติดในกระแสเลือด และยังให้ชุดสายสืบลงหาเบาะแสคนร้ายอย่างต่อเนื่องคาดว่าน่าจะมีคนร้ายไม่น้อยกว่า 2 คน และอาจจะเป็นคนใกล้ชิดและรู้จักแม่ชีเป็นอย่างดี
เพราะจากการสอบปากคำแม่ชีในวันเกิดเหตุยังพอให้การได้ว่าคนร้ายสวมหมวกไหมพรมสีน้ำตาล สวมเสื้อแขนยาวสีเทาและกางเกงขายาวสีเทา รูปร่างเตี้ยผิวดำแดง อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งตำรวจได้เบาะแสคนร้ายแล้วและคาดว่าน่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีเร็วๆนี้