
จากกรณีนางสุชาดา หรือ พีร์ภิชา อายุ 47 ปี อยู่บ้านหมู่ 5 ต.นายาง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ถูกนายฉัตรชัย หรือโอ อายุ 35 ปี อยู่บ้านหมู่ 3 ต.นายาง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ผู้เป็นหลานชาย ใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตภายในบ้านเนินทราย ต.นายาง อ.ชะอำ เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา
วันที่ 4 สิงหาคม 2563 พ.ต.ท.ชูเกียรติ เพชรแท้ สารวัตรเวร สภ.ชะอำ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ชะอำ ได้ลงพื้นที่สอบสวนพยานและเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุจนสามารถขอหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี ออกหมายจับนายฉัตรชัยในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับบรรยากาศที่บ้านของผู้ตายเป็นไปอย่างเงียบเหงา ญาติๆอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจและกำลังเตรียมการจะไปรับศพนางสุชาดา หรือ พีร์ภิชา ผู้ตายมาทำพิธีทางศาสนาที่วัดคลองสายหนึ่ง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ คอยมาดูแลความปลอดภัยให้แก่พยานผู้เห็นเหตุการณ์เนื่องจากเกรงว่านายฉัตรชัยที่กำลังหลบหนีอยู่จะหวนกลับมาทำร้ายพยานอีกด้วย
นางณัฐชานันท์ อายุ 48 ปี พี่สาวผู้ตายซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 2 สิงหาคม นายฉัตรชัยได้มาเรียกพี่สาวตนให้ออกมาพูดคุยเรื่องคดีความที่นายฉัตรชัยได้ใช้อาวุธมีดทำร้ายสามีพี่สาวของตนเพื่อขอให้ยอมความแต่พี่สาวตนไม่ยอมออกไปเนื่องจากเกรงจะถูกทำร้าย
กระทั่งเมื่อช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนอุ้มลูกชายของนายฉัตรชัยอยู่หน้าบ้าน และพี่สาวของตนอยู่ในบ้าน นายฉัตรชัยได้เดินเข้ามาพูดคุยกับพี่สาวของตนเพื่อให้ช่วยเจรจาเรื่องคดีความ พี่สาวของตนจึงโทรศัพท์ไปพูดคุยแต่สามีของพี่สาวตนไม่ยอมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทำให้นายฉัตรชัยเกิดความโมโหใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงพี่สาวของตน 1 นัดจนล้มลงและเดินเข้ามายิงซ้ำอีกหลายนัดจนพี่สาวของตนเสียชีวิต
จากนั้นนายฉัตรชัยได้หันกระบอกปืนมาเพื่อจะยิงแต่เห็นว่าตนอุ้มลูกของตนเองอยู่จึงรีบวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์และขี่หนีออกไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกัน พ.ต.ท.วิวรรชน์ ลำพูน รองผู้กำกับสืบสวนสถานีตำรวจภูธรชะอำ นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพร้อมอาวุธปืนยาวหลายนาย ลงพื้นที่บ้านพักไม่มีเลขที่ใกล้กับอ่างเก็บน้ำท่าไม้รวก ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง เป็นบ้านคนรู้จักกับผู้ต้องหา ที่คาดว่าผู้ต้องหาจะมาหลบซ่อนตัว จากการตรวจสอบไม่พบผู้ต้องหาเร่งสืบหาและติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป