
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 28 ก.ค. 2563 ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ แสนโท รองสารวัตรสอบสวน สภ.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้โรงงานไฟเบอร์กลาส หมู่ 14 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ตั้งอยู่ถนนเลียบถนนกาญจนาภิเษกหมายเลข9 บางปะอิน-บางนามุ่งหน้าบางนา หลังรับแจ้งจึงประสานรถน้ำใกล้เคียง จาก อบต.บึงคำพร้อย เทศบาลตำบลธัญบุรี เทศบาลเมืองลาดสวาย และรถน้ำใกล้เคียงกว่า 20 คัน
ในที่เกิดเหตุเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ปลูกอยู่บนเนื้อที่ ประมาณ 3 ไร่ทำจากโครงเหล็กหลังคาเมทัลชีทผลิตผลิตภัณฑ์จากไฟเบอร์กลาสจำพวก ถังน้ำเก้าอี้พลาสติก พบแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากพวงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ามองเห็นได้จากระยะไกล
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกลามแต่วัสดุเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้เพลิงไหม้อย่างรวดเร็วจนได้รับความเสียหายทั้งหมด ความร้อนทำให้โครงสร้างหลังคาเกิดการยุบตัว
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาเกือบ2 ชม.จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 รายชื่อนายธีรพงษ์ อายุ 20 ปี เป็นพนักงานของบริษัทถูกเพลิงไหม้ที่ข้อมือซ้าย และใบหน้า
นายธีรพงษ์ อายุ 20 ปี คนงาน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันหยุด ของทางบริษัท แต่มีพนักงานจำนวน 15 คน เข้ามาทำโอทีระหว่างช่วงพักเที่ยง ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสองครั้ง ก่อนจะมีไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วภายในโรงงาน
พนักงานทั้งหมดต่างพากันวิ่งหาน้ำและถังดับเพลิงมาดับ แต่ไม่ทัน เพราะเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จึงวิ่งออกมาด้านนอกและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประสานดับเพลิง
นอกจากนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 รายทราบชื่อต่อมาว่า นางวรนุช อายุ 52 ปี ชาวจังหวัดปราจีนบุรี ถูกไฟไหม้จนหมดเหลือแค่โคลงกระดูก
นางวรนุชซึ่งเป็นพนักงานออฟฟิตของบริษัทดังกล่าวทำงานที่บริษัทนี้มานานกว่า 10 ปี ในขณะเกิดเหตุ ผู้ตายทำงานอยู่บนออฟฟิศชั้นที่ 2 ตอนเกิดเหตุไม่สามารถหนีออหมาได้
ด้านนายไชยรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เปิดเผยว่า บริษัท ปลูกอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ ทำเกี่ยวกับไฟเบอร์ เช่นหลังคารถ ถังต่างๆ ภายในมีทั้งชิ้นงานที่ทำเสร็จแล้วเพื่อเตรียมส่งลูกค้าในวันเปิดทำการ และยังมีอุปกรณ์อีกมากที่อยู่ระหว่างทำ โดยในเบื้องต้นคาดว่า ความเสียหายในครั้งนี้ ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
ทางด้าน ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ แสนโท รองสารวัตรสอบสวน สภ.ลำลูกกา เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและสอบปากคำพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์พร้อมทั้งกันพื้นที่เพื่อรอตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป