
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณที่นานายสุทิน เลพล อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 156 บ้านคำมันปลา หมู่ 6 ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์
ซึ่งอยู่ระหว่างบ้านคำมันปลากับบ้านคำมะโฮ ลักษณะภูมิประเทศเป็นทุ่งนาสลับกับเนินสูงปลูกมันสำปะหลัง มีชาวบ้านจำนวน 15 คน นำโดยนายสุทินเจ้าของนา และผู้สูงอายุในหมู่บ้าน มุงดูวัตถุชนิดหนึ่ง อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นบนเนินดินสูง
ซึ่งวัตถุที่พบดังกล่าวมีลักษณะเป็นก้อนสีขาว ถูกฝังรวมกันอยู่ใต้ผิวดิน ลึกจากระดับผิวดินปกติประมาณ 70 ซม. ทั้งนี้ ชาวบ้านต่างเชื่อว่าเป็นกระดูกของสัตว์โบราณอายุหลายหมื่นปี จึงนำดอกไม้ธูปเทียนมาจุดขอขมา และเดินวนอ้อมเนินดินและบริเวณที่พบกระดูกดังกล่าว 3 รอบ ก่อนประกอบพิธีขอความเป็นสิริมงคลและโชคลาภตามความเชื่อ
นายพูนพิพัฒน์ เรืองแสน อายุ 61 ปี กล่าวว่า บริเวณดังกล่าวและละแวกใกล้เคียง เป็นพื้นที่ราบสูง แต่มีร่องรอยของร่องน้ำธรรมชาติไหลผ่านเชื่อมไปถึงโนนวิเศษ ในเขตใกล้เคียงคือ อ.ชื่นชม จ.มหาสารคาม
ซึ่งในอดีตคนเฒ่าคนแก่เล่าขานว่าเป็นทางเดินของคนโบราณ รวมถึงแหล่งหากินของสัตว์ในยุคโบราณ นอกจากนี้ตามบริเวณวัดป่าในพื้นที่ และตามหัวไร่ปลายนาของชาวบ้าน
ยังเคยขุดพบเศษซากสิ่งของเครื่องใช้ของคนโบราณอีกเป็นจำนวนมาก จึงสันนิษฐานว่าในย่านนี้ น่าจะเป็นที่อยู่อาศัยของคนโบราณที่เรียกว่ามนุษย์ 8 ศอก หรือเป็นสุสานฝังซากศพสัตว์ในยุคดึกดำบรรพ์ แต่ยังไม่เคยมีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
ด้านนายสุทิน เลพล เจ้าของสถานที่กล่าวว่า เดิมจุดที่พบเป็นเนินสูง สภาพเป็นดินเหนียว แข็ง โดยมีต้นนางหวานซึ่งเป็นต้นไม้โบราณ ปัจจุบันเกือบจะสูญพันธุ์ไปหมดแล้วยืนต้นอยู่ สัปดาห์ก่อนได้จ้างรถแม็คโฮมาขุด เพื่อนำดินไปถมที่และเพื่อปรับพื้นที่เป็นแปลงนา
วันนี้จึงได้นำเมล็ดข้าวเปลือกมาหว่าน จากนั้นเข้าไปนั่งพักใต้ร่มนางหวาน จึงได้สังเกตเห็นวัตถุสีขาว เป็นก้อน เป็นแผ่น วางเรียงกันเป็นตับอยู่ รู้สึกแปลกใจมากจึงเอามือเกลี่ยดินที่ปกคลุมออก และใช้ฝ่ามือลูบดู บางชิ้นผิวเรียบ บางชิ้นขรุขระ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรแน่ จึงเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยกันดู
นายสุทินกล่าวอีกว่าเพื่อนบ้านที่มาเห็นต่างสงสัย ดูไม่ออกว่าเป็นซากกระดูกสัตว์หรือไม้ที่กลายเป็นหินกันแน่ อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีลักษณะคล้ายหินหรือเศษปูนดังกล่าว ก็ไม่มีใครคิดว่าเป็นเนื้อปูนแห้ง และไม่มีเหตุผลใดที่จะมีใครเอาเศษปูนมาฝังดินที่อยู่ลึกเกือบ 1 เมตร
จึงสันนิษฐานไปในทิศทางเดียวกันว่าน่าจะเป็นซากกระดูกสัตว์โบราณหรือในยุคดึกดำบรรพ์ ทั้งนี้ ตนและภรรยาเคยมานอนเฝ้าสัตว์เลี้ยงและข้าว บางคืนภรรยาตนบอกว่าเคยมองเห็นแสงประหลาดพุ่งขึ้นเนินต้นนางหวาน ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นแสงอะไร ก่อนที่จะมาพบกระดูกปริศนาในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อข่าวการพบกระดูกสัตว์โบราณแพร่ออกไป ทำให้ชาวบ้านที่ทราบเรื่องราวและนิยมเรื่องโชคลาภ โดยเฉพาะใกล้วันหวยออก จึงต่างแตกตื่นมาดู พร้อมกับนำดอกไม้ ธูปเทียนมาประกอบพิธีขอขมา เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอเลขเด็ดตามความเชื่อ
ทั้งนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งทางผู้นำหมู่บ้านจะได้รายงานนายอำเภอและเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบต่อไปว่าวัตถุที่ขุดพบนั้นคืออะไร