
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.จักรกฤษณ์ เนตรสว่าง พนักงานสอบสวน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ฯ ว่ามีเหตุทำให้เสียทรัพย์ที่วัดถ้ำสุวรรณคูหา จึงได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และพร้อมกับพวกออกตรวจที่เกิดเหตุ
จากการตรวจที่เกิดเหตุพบว่าที่บริเวณใบหน้า จมูก และใบหูทั้งสองข้าง ขององค์พระพุทธรูปพระประธานพระไชยเชษฐาธิราช ซึ่งตั้งอยู่ในโบสถ์วัดถ้ำสุวรรณคูหา ถูกของแข็งทุบทำลายจนแตกหัก เสียหาย พบเศษปูน และชิ้นส่วนขององค์พระฯ ตกกระจายอยู่รอบๆบริเวณหน้าตักองค์พระและฐานขององค์พระฯ
จากการสอบสวนเบื้องต้นในวันที่ 28 มิถุนายน 2563 พระอาจารย์ตุ่น พระภิกษุวัดบ้านโนนสมบูรณ์ และพระภิกษุวัดถ้ำสุวรรณคูหา ได้ร่วมกันทำพิธีบวชให้กับพระภิกษุใหม่
พระอาจารย์ตุ่น สังเกตเห็นที่บริเวณใบหน้า จมูก และใบหูทั้งสองข้างขององค์พระพุทธรูปพระประธานพระไชยเชษฐาธิราช ถูกทำลายได้รับความเสียหาย จึงได้แจ้งให้พระภิกษุและบุคคลที่อยู่ในโบสถ์ทราบ
ต่อมาจึงได้มีผู้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจที่เกิดเหตุ จึงได้จัดทำบันทึกการตรวจที่เกิดเหตุ แผนที่สังเขป และถ่ายภาพที่เกิดเหตุไว้
และในวันนี้ พ.ต.อ.ชนาธิป ภาโนมัย ผกก.สภ.สุวรรรรคูหา แจ้งมาว่าหลังจากเกิดเหตุได้ประชุมชุดสืบสวน และให้ออกติดตามหาคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ ขณะนี้ชัดสืบสวนสามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว ชื่อว่านายลำไย หรือจ่อย อายุ 36 ปี อยู่ที่บ้านโนนสมบูรณ์ ต.นาสี อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู
ได้สอบปากคำให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือใช้ค้อนประมาณ 1 ฟุต ทุบองค์พระพุทธรูปพระประธานพระไชยเชษฐาธิราช จริงและคืนวันก่อเหตุเกิดอาการหูแว่วว่ามีองค์เทพมาด่าทอตัวเองซึ่งก็คือพระพุทธรูปที่ตนไปทุบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วง โดยผู้ต้องหาคล้ายๆกับเป็นผู้ป่วยทางจิต ให้การวกไปวนมา และก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยโดนดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดมาแล้ว และมีภรรยาเป็นชาวลาว พึ่งเลิกรากันไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และส่งตัวดำเนินคดีในข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษ และทำให้เสียทรัพย์ ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป