
วันที่ 25 มิ.ย. 63 จากกรณีนายสุริยัน หรือแบงค์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจ่อยิง นายประภัย อายุ 46 ปี อยู่บ้านหมู่ที่ 4 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตขณะกำลังทำความสะอาดรถยนต์เพื่อที่จะรับรถยนต์ที่นำมาซ่อมเครื่องกลับบ้านก่อนจะหลบหนีไปอย่างใจเย็น
ส่วนตัวผู้ตายเจ้าหน้าที่พบยาบ้า 9 เม็ด และไอซ์จำนวนเล็กน้อยในกระเป๋ากางเกงยีนส์ และใกล้กันพบปลอกกระสุนขนาด .357 มม. ตกอยู่ 1 ปลอก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ทางญาติผู้เสียชีวิตได้จัดสถานที่เพื่อเตรียมรับร่างของนายประภัย มาบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านของพี่ชาย พื้นที่ ม.4 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ฯ หลัง รพ.สุราษฎร์ฯชันสูตรพลิกศพและเก็บวัตถุพยานเรียบร้อย ซึ่งคาดว่าจะได้บำเพ็ญกุศลศพในคืนนี้
ทางนายบุญเลิศ อายุ 45 ปี หลานของผู้เสียชีวิต บอกว่า เดิมนายประภัย จะอยู่ที่บ้านย่าซึ่งเป็นบ้านแม่ของนายประภัย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของตนที่ตั้งศพ แต่ช่วงหลังย่าไปรักษาอาการป่วยที่บ้านลูกอีกคนหนึ่งที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้นายประภัยอยู่เพียงคนเดียว ซึ่งก็ไม่ค่อยได้มาที่บ้านของตนสักเท่าไร ทำให้ไม่ค่อยรู้เรื่องว่ามีปัญหากับใครบ้าง แต่เรื่องยาเสพติดนั้นเคยต้องโทษจริง แต่หลังจากออกมานั้นก็ไม่ได้รู้เรื่องเลย
ส่วนวันที่เกิดเหตุก็ทราบเพียงว่าจะไปเคลียร์เรื่องรถที่เอาไปซ่อม ซึ่งรถคันนั้นน่าจะมีการทำสีด้วย เพราะก่อนหน้านี้รถคันดังกล่าวอยู่ในสภาพเก่ากว่านี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำสีกับผู้ก่อเหตุหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ก็ไม่รู้ว่ามีการขัดแย้งเรื่องอะไร แต่ก็อยากให้จับคนร้ายโดยเร็ว
ขณะที่ พ.ต.อ.นิพนธ์ รัตนศิริแสงโชติ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ที่ลงพื้นที่จรวจเยี่ยม สภ.ดอนสัก ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งกดดันติดตามตัวคนร้ายโดยเร็ว เพื่อหาสาเหตุการก่อเหตุที่แท้จริง
โดยเบื้องต้นยังมองไปที่เรื่องยาเสพติด เพราะผู้เสียชีวิตมีประวัติพัวพันกับยาเสพติด และความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นยังไม่พบมูลเหตุความขัดแย้งที่นำไปสู่การสังหารในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งกดดันติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด