
วันที่ 2 มิ.ย.63 นายรักพงษ์ บุญย่อย หน. อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้รับแจ้งจากราษฎร บ้านท่ากระทุ่น หมู่ที่ 5 ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ ว่า
พบช้างป่า ขนาดใหญ่ เสียชีวิต บริเวณสวนมะม่วง หมู่ 5 ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบ จึงได้ประสาน พ.ต.อ.ประสม หงษ์โต ผกก.สภ.ปราณบุรี , พ.ต.ท.สนั่น ศิริมงคล รอง ผกก.(สอบสวน) ,ร.ต.อ.จารึก คงกะเรียน รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ปราณบุรี พร้อมพ.ต.อ.วิรัช ทองไทย นวท.(สบ 4) พฐ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบวัตถุโลหะบนตัวช้างป่าและพื้นที่โดยรอบ
เบื้องต้นพบว่าเป็นช้างป่าเพศผู้ มีงาสั้นแค่มุมปาก อายุประมาณ 40 ปี น้ำหนักประมาณ 5-6 ตัน อ้วนถ้วนสมบูรณ์ ภายนอกไม่พบบาดแผลใดๆ ตายมาแล้วประมาณ 1 วัน โดยที่งวงพันอยู่กับลวดไฟฟ้า 1 เส้น และนอนทับอยู่อีก 1 เส้น ที่ใช้เครื่องปั่นไฟจากสวนมะม่วงของชาวบ้าน
จากนั้นทีมสัตวแพทย์ ได้ร่วมกันทำการผ่าพิสูจน์ซาก เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อทั้ง เนื้อบริเวณงวงช้างที่มีรอยไหม้ไฟ ตับ ปอด หัวใจ ไต ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ และเลือดช้าง ทั้งนี้ไม่สามารถเก็บม้ามได้ โดยชิ้นส่วนเนื้อและเลือดช้างป่า ส่งตรวจห้องปฎิบัติการ มหาวิทยาลัยมหิดล
สำหรับสาเหตุการตายเบื้องต้นมาจากถูกกระแสไฟฟ้าช็อต เมื่อผ่าเสร็จแล้วจะได้ทำการฝังซากตามหลักวิชาการต่อไป
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ประสม หงษ์โต ผกก.สภ.ปราณบุรี ได้เรียก คนงานเฝ้าไร่ เป็นชายจำนวน 3 คน มาให้ข้อมูล และพาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพร้อมพนักงานสอบสวน
ตรวจสอบเส้นลวดไปยังแหล่งกำเนิดไฟฟ้าพบว่าเป็นเครื่องปั่นไฟ ยี่ห้อยันมาร์ 105 จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งต่อกระแสไฟตรง มายังเส้นลวด จึงได้ยึดขดลวดและเครื่องปั่นไฟไว้เป็นของกลาง จากการตรวจสอบและสอบสวนเชื่อว่าสาเหตุการตายเกิดจากกระแสไฟฟ้าช็อต สำหรับผู้ก่อเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน
ทางด้านนายคมศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ชาวบ้าน ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด และนายสยามรัฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาวบ้าน ต.ศาลาลัย ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ตามปกติจะเปิดไฟเวลาประมาณ 1 ทุ่ม หรือ 19.00 น. และตื่นเช้าเวลาประมาณ ตี 5 ครึ่ง หรือ 05.30 น.-06.00 น. จึงปิดไฟ
ซึ่งเครื่องปั่นไฟต่อกระแสไฟตรง มีระบบเบรคเกอร์ ตัดไฟเมื่อมีไฟฟ้าช็อต ซึ่งวันนี้ไฟในไร่ติดปกติไม่มีการตัดไฟ และไม่ทราบว่าไฟช็อตช้างป่าตาย
ด้านนายเล็ก สมคิด หรือเผือก ชาวบ้าน ต.ศาลาลัย กล่าวว่า ตนมารับจ้างใส่ปุ๋ยในไร่สับปะรดแปลงที่อยู่ติดกัน สักเกตุเห็นไกลๆว่ามีกองอะไรใหญ่ ทีแรกนึกว่าจอมปลวก เพราะปกติไม่เห็นมี จึงมาเรียกชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ กระทั่งพบว่าเป็นช้างป่าตาย
ซึ่งปกติแล้วในพื้นที่จะมีช้างป่าออกมาหากิน บางครั้งมาตัวเดียวและบางครั้งมากันเป็นโขลงใหญ่